ฮัลโหลลล สวัสดีค่าาาา เรามาดูแลเรื่องผิวกายของเรากันบ้างดีกว่า วันนี้ GangBeauty นำกระทู้รีวิวที่เรียกได้ว่าทุกคนจะได้เต็มอิ่ม ได้ความรู้ดีๆเกี่ยวกับการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวกายหรือครีมอาบน้ำสําหรับผิวแห้งที่ทำให้เราผิวนุ่มชุ่มชื้นจริงๆไม่หลอก กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวจากสมาชิกพันทิปหมายเลข 2939785 ที่ได้เขียนรีวิวจากประสบการณ์ของตัวเองไว้อย่างละเอียด อย่ารอช้าเราไปชมกันเลยค่า
(ข้อความต่อไปนี้เป็นข้อความจากกระทู้ที่สมาชิกหมายเลข 2939785 ได้เขียนรีวิวเอาไว้)
ที่มาที่ไปของการรีวิวครีมอาบน้ำสําหรับผิวแห้งในครั้งนี้ เกิดจากโดยส่วนตัวเป็นคนชอบเดินดูผลิตภัณฑ์เพื่อความสวยความงามต่างๆ ว่ามีอะไรออกใหม่บ้าง และที่เห็นออกสูตรใหม่บ่อยพอๆ กับสูตรใหม่ของขนมกรุบกรอบ ก็ไม่พ้นบรรดาครีมอาบน้ำนี่แหละค่ะ สารพัดสูตร สารพัดกลิ่น เรียกว่ากว่าจะได้ซักขวดนึงนี่ มีตาหูลายกันไม่น้อยเลย
ก็เลยเป็นที่มาของความสงสัยว่า ที่แต่ละยี่ห้อออกๆ สูตรใหม่กันมา มันได้ผลจริงอย่างโฆษณาหรือที่เคลมกันไว้ที่ฉลากจริงรึเปล่า … สงสัยแล้วก็ไม่รอช้าค่ะ พุ่งตัวไปที่ชั้นวางครีมอาบน้ำ และกวาดมาหมดทุกยี่ห้อ ที่เป็นสูตรเดียวกัน นั่นก็คือ สูตรเพื่อผิวนุ่มชุ่มชื่น เพราะคงจะเป็นสูตรที่รีวิวได้ค่อนข้างชัดเจน และเห็นผลได้แบบไม่ต้องรอ เหมือนพวกสูตรเพื่อผิวกระจ่างใส
และนี่คือ โฉมหน้าครีมอาบน้ำสําหรับผิวแห้งที่ถูกกวาดลงตะกร้ามาจ้า
และก่อนจะไปถึงการรีวิว เรามาดูข้อมูลพื้นฐานในการทำรีวิวครั้งนี้กันก่อนนะคะ
1. สภาพผิว จขกท. :: ผิวธรรมดา โดยปกติถ้าไม่ทาโลชั่นบำรุงผิว ผิวก็ไม่แห้งเป็นขุย
2. อุณหภูมิห้องขณะวัดด้วยเครื่องตรวจสภาพผิว :: เปิดแอร์ที่ 25 องศา
3. อาบน้ำด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ ไม่ใช่เครื่องทำน้ำอุ่น
4. บริเวณที่ใช้ทดสอบสภาพผิว คือ ช่วงกลางแขนด้านใน (ระหว่างข้อมือและข้อพับแขน)
5. การวัดด้วยเครื่องตรวจสภาพผิวหลังอาบน้ำทันที คือ หลังจากเช็ดตัวเสร็จเรียบร้อย
6. การวัดด้วยเครื่องตรวจสภาพผิวหลังอาบน้ำ 15 นาที คือ ไม่ทำอะไรกับผิวทั้งสิ้น ไม่ทาโลชั่นหรือใช้ผลิตภัณฑ์ใดๆ กับผิว
7. ทำการวัดค่าสภาพผิว 3 ครั้ง เพื่อให้ได้ค่าที่ถูกต้องที่สุด
8. จขกท. งดการทดลองใช้ในช่วงที่อากาศหนาวมาเยือนเป็นพักๆ ก่อนหน้านี้ เพื่อให้ได้สภาพผิวตามปกติในการทดลองใช้จริงๆ
9. จขกท. ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับผลิตภัณฑ์ทั้ง 9 ยี่ห้อ
10. รีวิวทั้งหมดในกระทู้นี้ เป็นความรู้สึกจากการใช้จริงของ จขกท. ซึ่งผลจากการใช้ อาจแตกต่างกันไปตามสภาพผิว และปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ของผู้ใช้ ในส่วนของกลิ่นผลิตภัณฑ์ก็เช่นเดียวกันนะคะ ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล
ยังไม่พอค่ะ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ไม่ใช่แค่ความรู้สึกจากการใช้เพียงอย่างเดียว เราเลยต้องมีตัวช่วยให้เห็นว่า เอ๊อะ ที่เรารู้สึกนี่มันเป็นจริงอย่างนั้นมั้ย
และนี่คือ เครื่องวัดค่าความชุ่มชื่นของผิว ซึ่งจะบอกค่าความชุ่มชื่น ความมัน และความนุ่มของผิว เครื่องนี้ซื้อมาจากในออนไลน์นี่ล่ะค่ะ ราคาพันกว่าบาท หน้าตาอาจจะใกล้เคียงเครื่องตรวจการตั้งครรภ์ไปหน่อยนะคะ 555
ลักส์ (Lux)
สูตร Soft Touch เพื่อผิวเนียนนุ่มน่าสัมผัส
ส่วนผสมเด่นที่ทางแบรนด์ชูเป็นจุดขาย :: Silk Essence , French Rose Infusion
คำเคลมที่ฉลากโดยย่อ :: ปรนนิบัติผิวให้เนียนนุ่มน่าสัมผัส และเติมมอยส์เจอร์ไรเซอร์ให้ผิวในขณะอาบน้ำ
ขนาด 200 มล. ราคา 59 บาท
ผลจากการใช้ครั้งแรก
กลิ่น ให้คะแนน 6.5/10
หอมแบบน้ำหอม ค่อนข้างกลิ่นแรง (หอมแรง) กลิ่นติดตัวประมาณครึ่งชั่วโมง โดยส่วนตัวรู้สึกว่าหอมฉุนเกินไป
ครีมฟอง ให้คะแนน 6/10
เหมือนสบู่ก้อนทั่วไป ไม่ค่อยเนียนละเอียด เป็นฟองแบบธรรมดามากๆ
ล้างออก ให้คะแนน 8/10
ง่าย เร็วพอๆ กับการใช้สบู่ก้อน ถือเป็นยี่ห้อเดียวที่ล้างออกง่ายที่สุด เร็วที่สุด
ความรู้สึกหลังอาบ ให้คะแนน 7/10
รู้สึกผิวชุ่มชื่นน้อยลงกว่าตอนอาบเสร็จใหม่ๆ แต่ไม่ถึงกับแห้งเป็นขุย
สรุป :: ถือว่ากลางๆ กับทุกอย่าง แต่โดยส่วนตัวไม่ค่อยชอบกลิ่น แล้วพอฟองไม่ได้เนียนนุ่มอะไรมาก ก็เลยรู้สึกเฉยๆ แต่ถ้าใครที่ชอบกลิ่นประมาณนี้ ยี่ห้อนี้ก็ถือว่าโอเคค่ะ
โชกุบุสซึ โมโนกาตาริ (Shokubutsu Monogatari)
สูตร Advance Moisture ผิวเนียนนุ่ม เพิ่มความชุ่มชื่นมากเป็นพิเศษ
ส่วนผสมเด่นที่ทางแบรนด์ชูเป็นจุดขาย :: Oat Milk & Shea Butter
คำเคลมที่ฉลากโดยย่อ :: อุดมด้วยวิตามิน A และ E ให้ความชุ่มชื่นผิวได้มากขึ้น ผิวจึงสะอาด สุขภาพดี เนียนนุ่ม ดูอ่อนเยาว์ ให้ฟองครีมละเอียดอ่อน พร้อมกลิ่นหอมละมุน ให้ความรู้สึกถึงธรรมชาติที่แท้จริง
ขนาด 200 มล. ราคา 47 บาท
ผลจากการใช้ครั้งแรก
1) กลิ่น ให้คะแนน 7/10
ตอนไปซื้อนี่จำได้เลย เปิดขวดมาลองดม นี่คือชอบเลย กลิ่นหอมอ่อนๆ หอมนวลๆ ไม่บาดจมูก แอบหวังว่าถ้าอาบแล้วได้กลิ่นนี้ติดตัว จะเป็นอะไรที่รักมาก แต่พออาบจริงๆ เช็ดตัว ใส่เสื้อผ้าเสร็จ ก็ต่างคนต่างไปกันเลยทีเดียว ค่อนข้างหายเข้ากลีบเมฆไปเร็วพอสมควรเลยค่ะ (จริงๆ อยากให้ 8 คะแนน แต่ขอหักออก 1 คะแนนที่กลิ่นทอดทิ้งกันไปรวดเร็วเกิ๊น)
2) ครีมฟอง ให้คะแนน 8.5/10
นุ่มมมม เนียนนนน และค่อนข้างละเอียดมากพอสมควร รู้สึกช่วยกระตุ้นความขยันในการอาบน้ำมากขึ้น 555
3) ล้างออก ให้คะแนน 6/10
ค่อนข้างใช้เวลานิดนึงกว่าจะรู้สึกว่าฟองออกหมด แต่พอหมดก็ไม่รู้สึกลื่นผิว และไม่ตึงผิว
4) ความรู้สึกหลังอาบ ให้คะแนน 5/10
ตอนอาบเสร็จใหม่ๆ ไม่รู้สึกตึงผิวใดๆ แต่ซักพักเริ่มรู้สึกตึงผิวและผิวแห้งมากแบบสังเกตได้ คือ แห้งเป็นขุยเลยจ้า
สรุป :: ถึงจะชอบกลิ่นและฟองค่อนข้างมากอยู่ แต่พอหลังอาบแล้วไม่ทาโลชั่น ผิวแห้งเป็นขุยขาวขนาดนี้ ก็คาดว่าคงไม่สามารถใช้ต่อได้ หรือถ้าอยากใช้ต่อจริงๆ คงต้องขยันทาโลชั่นบำรุงผิวหน่อย เพราะฉะนั้น ถ้าใครที่มีผิวแห้ง แห๊ง แห้ง อยู่แล้ว เจ้าขวดนี้อาจจะต้องผ่านไปก่อนน้า
บีไนซ์ (BeNice)
สูตร Deeply Moisturizing เพื่อผิวเนียนนุ่ม ชุ่มชื่น บำรุงผิวอย่างล้ำลึก
ส่วนผสมเด่นที่ทางแบรนด์ชูเป็นจุดขาย :: Yoghurt Essence , Goat Milk
คำเคลมที่ฉลากโดยย่อ :: โยเกิร์ต เอสเซ้นส์ ช่วยบำรุงผิวให้ผิวเนียนนุ่มชุ่มชื่น , สารสกัดจากนมแพะ ให้ความชุ่มชื่นกับผิว ด้วยวิตามินบีและกรดไขมัน
ขนาด 180 มล. ราคา 62 บาท
ผลจากการใช้ครั้งแรก
1) กลิ่น ให้คะแนน 9/10
เป็นอีกยี่ห้อที่ชอบกลิ่นตั้งแต่ตอนหยิบซื้อ กลิ่นจะหอมแบบผลไม้ สดชื่นมาก จริงๆ ถ้าเทียบกับโชกุบุสซึ อันนั้นโดนใจตอนหยิบซื้อมากกว่า แต่บีไนซ์ชนะใจกว่าเพราะตอนอาบรู้สึกว่ายิ่งอาบยิ่งหอมมากขึ้นไปอีก และที่เด็ดสุดๆ ก็คือหลังอาบกลิ่นยังติดตัวอยู่ได้เกือบ 2 ชม. เลย
2) ครีมฟอง ให้คะแนน 9/10
เนียนนุ่มมากกกก (ก.ไก่ล้านตัว) ฟองแน่นละเอียดมากกกก (ก.ไก่อีกล้านตัว) ฟองจะเป็นแบบครีมมี่สุดๆ ถูๆ บนผิวแล้วรู้สึกว่ามันละมุนผิวมากๆ อาบสนุกเลย มันละมุนละไมไปหมด แทบจะไม่รู้สึกถึงการสัมผัสของมือกับผิวตัวเลย
3) ล้างออก ให้คะแนน 8/10
ค่อนข้างง่าย อาจจะใช้เวลามากกว่าการใช้สบู่ก้อนนิดนึง แต่สำหรับครีมอาบน้ำ ก็ถือว่าใช้เวลาไม่มากค่ะ
4) ความรู้สึกหลังอาบ ให้คะแนน 5/10
ตอนอาบเสร็จใหม่ๆ ไม่รู้สึกตึงผิวใดๆ แต่ซักพักเริ่มรู้สึกได้ว่าความชุ่มชื่นลดลง และความแห้งก็คืบคลานเข้ามา จนผิวแห้งเป็นขุยขาวๆ ในที่สุด
สรุป :: ยอมรับเลยว่าเสียดายกลิ่นหอมและฟองวิปครีมของยี่ห้อนี้มาก คือทำได้ดีมาทุกอย่าง แต่สุดท้ายก็มาพ่ายแพ้ให้กับความแห้งอีกจนได้ จริงๆ ถ้าแค่ตึงผิวหรือรู้สึกว่าชุ่มชื่นลดลง ยังพอจะทำหยวนทาโลชั่นให้ลืมๆ ไปได้ แต่พอแห้งขนาดลอกเป็นขุยๆ เลย จะใช้ต่อไป ก็กลัวว่าจะกลายเป็นคนผิวแห้งเหี่ยวไปในที่สุด ก็คงต้องโบกมือลา พร้อมปาดน้ำตาที่ต้องจากกัน
คัสสัน อิมพีเรียบเลเธอร์ (Cusson Imperial Leather)
สูตร Softly Softly เพื่อผิวเนียนนุ่ม น่าสัมผัส
ส่วนผสมเด่นที่ทางแบรนด์ชูเป็นจุดขาย :: สารสกัดจากชากุหลาบ และน้ำนม
คำเคลมที่ฉลากโดยย่อ :: สารสกัดจากชากุหลาบช่วยต้านอนุมูลอิสระ , น้ำนมช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม มี pH ที่เหมาะกับผิวทุกคนในครอบครัว (แต่ไม่ได้บอกว่า pH เท่าไหร่)
ขนาด 200 มล. 60 บาท
ผลจากการใช้ครั้งแรก
1) กลิ่น ให้คะแนน 5/10
กลิ่นแปลกๆ หอมแหลมๆ แบบบาดจมูกเกินไป หลังอาบไม่มีกลิ่นติดตัวเลย (อันนี้อาจถือเป็นโชคดี)
2) ครีมฟอง ให้คะแนน 5/10
น้อยมาก แทบไม่มีฟองเลย ทำให้รู้สึกอาบแล้วเหมือนถูไม่ทั่วตัว (อันนี้ต้องบอกก่อนว่า โดยส่วนตัวไม่ชอบอาบน้ำด้วยอะไรที่ไม่มีฟอง คือเป็นความรู้สึกส่วนตัวจริงๆ)
3) ล้างออก ให้คะแนน 6/10
ยากมาก รู้สึกเปลืองน้ำยังไงชอบกล เพราะมันจะลื่นๆๆ อยู่อย่างนั้น ล้างจนท้อใจ ไม่ล้างต่อก็ได้ เช็ดตัวมันซะเลย แต่ก็พอเข้าใจได้ว่าอาจจะเป็นเพราะส่วนผสมบางอย่างที่ช่วยเคลือบผิวให้คงความชุ่มชื่นไว้ แต่ส่วนตัวไม่ชอบที่เหมือนล้างออกไม่หมด
4) ความรู้สึกหลังอาบ ให้คะแนน 7/10
อ่ะ อันนี้มาแปลก คือ ทุกขั้นตอนตั้งแต่เริ่มอาบน้ำ ไม่ชอบเลยซักอย่าง แต่ผลที่ได้หลังอาบถือว่าค่อนช้างโอเค คือรู้สึกว่ามีความแตกต่างของความชุ่มชื่นของผิวตอนหลังอาบเสร็จทันทีกับตอนผ่านไปแล้วซักพักอยู่นิดหน่อย น่าจะเพราะความลื่นที่ค่อยๆ หายไป แต่ถือว่าผิวอยู่ในสภาพปกติ ไม่แห้งเป็นขุย
สรุป :: มันช่างเป็นเรื่องยากจริงๆ ถ้าใครไม่มีปัญหากับกลิ่นของเจ้าขวดนี้ และไม่เกี่ยงงอนกับการอาบน้ำแบบฟองน้อยๆ รวมทั้งความลื่นนนนเหมือนล้างออกไม่หมด ก็ถือว่ายี่ห้อนี้ไม่สร้างความแห้งบนผิวแบบมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่สำหรับเรา ไม่ไหวจริงๆ คือขอยอมใช้อย่างอื่นที่อาจจะชุ่มชื่นน้อยกว่า แล้วทาโลชั่นทดแทนเอา
เดทตอล (Dettol)
สูตร Skincare Anti-bacteria
ส่วนผสมเด่นที่ทางแบรนด์ชูเป็นจุดขาย :: ไม่ระบุ
คำเคลมที่ฉลากโดยย่อ :: ผสานการปกป้องผิวด้วยค่า pH-Balanced พร้อมมอยส์เจอร์ไรเซอร์เข้มข้น เพื่อปกป้องผิวจากความแห้งกร้าน เพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวเนียนนุ่ม
ขนาด 200 มล. ราคา 69 บาท
ผลจากการใช้ครั้งแรก
1) กลิ่น ให้คะแนน 9/10
ขวดนี้ถือว่าเป็นม้ามืดมากๆ เพราะตอนดมจากขวดก็รู้สึกว่าหอมนะ แต่ไม่ได้วิ้งว้าวเหมือนตอนดมโชกุบุสซึกับบีไนซ์ แต่พอตอนอาบ รู้สึกว่าหอมมากกกกกก หอมแบบสะอาดๆ หอมผ่อนคลาย หอมฆ่าเชื้อโรคแบบเชือดนิ่มๆ 555 และที่สำคัญกลิ่นหอมอ่อนๆ นี้ ติดตัวด้วยจ้า อยู่ได้ประมาณเกือบ 2 ชม. เลย อันนี้เริ่ด ได้ใจไปเต็มๆ
2) ครีมฟอง ให้คะแนน 7/10
ฟองค่อนข้างน้อย แต่ไม่น้อยเท่า คัสสัน อิมพีเรียล คืออันนี้ยังพอมีให้ได้รู้ว่าถูไปตรงไหนแล้วบ้าง เพียงแต่อาจจะไม่อาบสนุกเท่าบีไนซ์เท่านั้นเอง
3) ล้างออก ให้คะแนน 7/10
ยากกว่าสบู่ก้อนทั่วไป แต่ก็ไม่ถึงกับว่าใช้เวลามากจนเปลืองน้ำ
4) ความรู้สึกหลังอาบ ให้คะแนน 8/10
รู้สึกได้เลยว่าผิวชุ่มชื่นเหมือนตอนเพิ่งอาบเสร็จใหม่ๆ ไม่ตึงผิว ผิวปกติ ไม่แห้ง ไม่เป็นขุย
สรุป :: ถือเป็นยี่ห้อที่ผ่านไปได้ในทุกเงื่อนไข ใช้ต่อได้แบบไม่เกี่ยงงอน และน่าจะเป็นยี่ห้อที่มีติดห้องน้ำไว้แน่นอนจ้า
โพรเทคส์ (Protex)
สูตร โอเมก้า 3 เพื่อผิวรู้สึกชุ่มชื่น
ส่วนผสมเด่นที่ทางแบรนด์ชูเป็นจุดขาย :: โอเมก้า 3
คำเคลมที่ฉลากโดยย่อ :: สารสกัดจากธรรมชาติ (Canola Oil น้ำมันจากต้นคาโนลา, Linum Usitatissmum Seed Oil น้ำมันที่ทำจากเมล็ดฝ้าย) ที่มีคุณค่าโอเมก้า 3 มีคุณสมบัติช่วยให้ผิวชุ่มชื่น
ขนาด 200 มล. ราคา 75 บาท
ผลจากการใช้ครั้งแรก
1) กลิ่น ให้คะแนน 8/10
เป็นกลิ่นแบบหอมสะอาดๆ ไม่อ่อนและไม่ฉุนจนเกินไป แนวๆ เดียวกับเดทตอล แต่เดทตอลจะหอมนุ่มนวลกว่า หลังอาบมีกลิ่นติดตัวอยู่ได้ประมาณ 1 ชั่วโมง
2) ครีมฟอง ให้คะแนน 7/10
ปริมาณฟองกลางๆ ไม่มากและไม่น้อย แต่ฟองจะไม่ค่อยละเอียด ไม่แน่น เป็นฟองบางๆ
3) ล้างออก ให้คะแนน 7/10
ใช้เวลามากกว่าสบู่ก้อนทั่วไปนิดหน่อย ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ล้างออกง่าย
4) ความรู้สึกหลังอาบ ให้คะแนน 8/10
รู้สึกผิวปกติเหมือนตอนก่อนอาบเลย คือรู้สึกว่าผิวสะอาดขึ้น แต่ไม่รู้สึกว่าผิวแห้ง หรือความชุ่มชื่นหายไป ความรู้สึกหลังอาบทันทีกับผ่านไปซักพัก ก็เหมือนกันเลย ไม่รู้สึกแห้งตึงใดๆ
สรุป :: ถือว่าทำได้ดีในทุกเงื่อนไขเหมือนเดทตอลค่ะ แต่โดยส่วนตัวเดทตอลจะชนะในเรื่องของกลิ่นมากกว่าเท่านั้นเอง
บิโอเร (Biore)
สูตร Moisture Rich ผิวนุ่มชุ่มชื่น เสมือนดูแลด้วยโลชั่น
ส่วนผสมเด่นที่ทางแบรนด์ชูเป็นจุดขาย :: อีฟวิ่งพริมโรส
คำเคลมที่ฉลากโดยย่อ :: คืนความชุ่มชื่น เคลือบผิวให้ดูเรียบเนียนสวยแม้บริเวณแห้งกร้านและบอบบาง ราวกับดูแลผิวด้วยโลชั่น
ขนาด 220 มล. ราคา 39 บาท
ผลจากการใช้ครั้งแรก
1) กลิ่น ให้คะแนน 9/10
หอมแบบสดชื่น หอมไม่ฉุน อาบแล้วหอมเพลินๆ เป็นอีกยี่ห้อที่อาบแล้วรู้สึกหอมมากกว่าตอนดมจากขวด หลังอาบมีกลิ่นติดตัวพอสมควรเลยค่ะ ประมาณ 2 ชั่วโมงกลิ่นถึงจะจางหายไป
2) ครีมฟอง ให้คะแนน 8/10
ฟองเยอะกำลังดี ไม่ถึงกับละเอียดแต่เนียนนุ่มดีค่ะ อาบแล้วรู้สึกกำลังดี
3) ล้างออก ให้คะแนน 8/10
ล้างออกยากกว่าสบู่ก้อนนิดนึง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าใช้เวลานานจนหวาดกลัวบิลค่าน้ำเหมือนคัสสัน อิมพีเรียล (ยังคงฝังใจอยู่เล็กๆ ^^)
4) ความรู้สึกหลังอาบ ให้คะแนน 7/10
รู้สึกผิวชุ่มชื่นเหมือนปกติ หลังอาบ 15 นาที รู้สึกความชุ่มชื่นลดลง แต่ไม่ได้แห้งจนผิวเป็นขุย มองแล้วดูปกติ
สรุป :: เป็นอีกยี่ห้อที่สาวๆ ผิวธรรมดาน่าจะชอบ คืออาบน้ำเสร็จถ้าไม่ทาโลชั่นก็ไม่ได้รู้สึกว่าผิวจะแห้งเหี่ยว แต่ถ้าสาวๆ ที่ผิวแห้ง อาจจะต้องทาโลชั่นหลังอาบน้ำ เพื่อคงความชุ่มชื่นซักหน่อย
โดฟ (Dove)
สูตร Deeply Nourishing บำรุงผิวอย่างล้ำลึก
ส่วนผสมเด่นที่ทางแบรนด์ชูเป็นจุดขาย :: ไม่ระบุ
คำเคลมที่ฉลากโดยย่อ :: เทคโนโลยีนูเทรียนมอยส์เจอร์ ผสมผสานมอยส์เจอร์ไรเซอร์และสารบำรุงที่มีอยู่ในผิวตามธรรมชาติ เพื่อการบำรุงล้ำลึกสู่ชั้นผิว สูตรใหม่ล้างออกง่าย (เป็นแบรนด์เดียวที่เคลมเรื่องการล้างออก)
ขนาด 200 มล. ราคา 72 บาท
ผลจากการใช้ครั้งแรก
กลิ่น ให้คะแนน 9/10
ค่อนข้างหอมถูกใจตั้งแต่ตอนหยิบซื้อ ตอนใช้ก็รู้สึกว่ากลิ่นหอมผ่อนคลาย หอมสะอาดแบบหอมผู้หญิงๆ หลังอาบกลิ่นหอมก็ยังติดตัวอยู่ได้เกือบ 2 ชม.
ครีมฟอง ให้คะแนน 8/10
ฟองไม่แน่น ไม่เนียนละเอียด แต่ปริมาณฟองก็ถือว่าระดับกลางๆ ไม่ได้น้อยจนเกินไป
ล้างออก ให้คะแนน 8/10
เนื่องจากแบรนด์นี้เป็นแบรนด์เดียวที่เคลมเรื่องการล้างออกว่า “ล้างออกง่าย” เราเลยค่อนข้างตั้งใจดูความง่ายเป็นพิเศษ ซึ่งก็ไม่ได้ถึงกับง่าย แต่ก็ไม่ได้ล้างยากล้างนาน คิดว่าก็น่าจะประมาณมาตรฐานทั่วไปของผลิตภัณฑ์ประเภทครีมอาบน้ำ แต่คิดว่าคำว่า ง่าย ในที่นี้ ทางแบรนด์น่าจะเปรียบเทียบกับสูตรเก่าของตัวเองมากกว่า
ความรู้สึกหลังอาบ ให้คะแนน 8/10
รู้สึกความชุ่มชื่นของผิวคงอยู่ปกติ คือหลังอาบทันทีกับผ่านไป 15 นาที ความรู้สึกและจากการมองด้วยตาเปล่า คือผิวปกติธรรมดา ไม่มีความรู้สึกว่ากำลังถูกความแห้งคุกคาม ถ้าทาโลชั่นหลังอาบทุกครั้ง ผิวน่าจะคงความชุ่มชื่นได้ดีมากทีเดียว
สรุป :: เป็นอีกยี่ห้อที่ชอบ น่าจะเท่าๆ กับเดทตอลเลย คือความรู้สึกว่าผิวไม่แห้งมีพอๆ กัน แต่โดฟให้ความรู้สึกของการถนอมผิวมากกว่าเดทตอล เปรียบเทียบง่ายๆ คือ ถ้าวันไหนมีกิจกรรมกลางแจ้ง เหงื่อออกเยอะ ก็จะกลับมาเลือกใช้เดทตอล แต่ถ้าวันไหนเดินห้างสวยๆ ก็กลับมาใช้โดฟ
วาสลีน (Vassaline)
สูตร Skin Replenishing สูตรบำรุงผิวให้ชุ่มชื่น
ส่วนผสมเด่นที่ทางแบรนด์ชูเป็นจุดขาย :: สารสกัดจากถั่วเหลือง ข้าวโอ๊ต วิตามืนซี วิตามินอี
คำเคลมที่ฉลากโดยย่อ :: ช่วยทำความสะอาดและบำรุงผิวให้ชุ่มชื่นด้วยคุณค่าบำรุงหลากหลาย สัมผัสได้ถึงความสดชื่นผิวแลดูสุขภาพดีตามธรรมชาติ
ขนาด 450 มล. ราคา 145 บาท
ผลจากการใช้ครั้งแรก
กลิ่น ให้คะแนน 9/10
หอมสดชื่นเลยค่ะ กลิ่นแบบสะอาดแต่มีหอมแบบกระปรี้กระเปร่าเข้ามาผสมด้วย หลังอาบมีกลิ่นติดตัวเกือบๆ 2 ชม.
ครีมฟอง ให้คะแนน 9.5/10
ฟองเป็นวิปครีมเลย ยิ่งถูยิ่งเนียนละเอียด ฟองนุ่มมากๆ นุ่ม แน่น เนียน นี่ถ้าใช้พวกฟองน้ำอาบน้ำร่วมด้วยน่าจะยิ่งได้ฟองเนียนมากขึ้นไปอีก
ล้างออก ให้คะแนน 8.5/10
ง่าย ใช้เวลาพอๆ กับการใช้สบู่ก้อนเลย ไม่ทิ้งความลื่นไว้ที่ผิว
ความรู้สึกหลังอาบ ให้คะแนน 8/10
หลังอาบไม่รู้สึกตึงผิว ความชุ่มชื่นมีอยู่ประมาณนึง ใกล้เคียงกับก่อนอาบน้ำ แค่รู้สึกว่าสะอาดและสบายผิวมากกว่า หลังอาบ 15 นาที ยังรู้สึกได้ถึงความชุ่มชื่น แต่ลดน้อยลงกว่าตอนอาบเสร็จใหม่ๆ แต่จากการมองด้วยตา ผิวไม่แห้ง ไม่เป็นขุย
สรุป :: โดยส่วนตัวถือว่ายี่ห้อนี้เบียดๆ กันมากับเดทตอลเลย เนื่องจากเป็นขวดสุดท้ายที่ใช้ และผลงานออกมาค่อนข้างดี ถ้าใช้ก่อนเดทตอล คงเทใจมาที่ขวดนี้ แต่เราเจอกันช้าไป เรารักคนนั้นไปแล้ว 555 เอาจริงๆ เราว่าเดทตอลกับวาสลีนสูตรนี้ ค่อนข้างใกล้เคียงกันมาก เพื่อนๆ น่าจะตัดสินใจจากความชอบในเรื่องของกลิ่นและครีมฟองละล่ะ เพราะทั้งสองขวดหอมมาก หอมดีงามพอๆ กัน แต่ก็เชื่อว่าความชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกันอยู่ดีเนอะ
ปล. วาสลีนสูตรนี้ ไม่มีขนาดเล็กจำหน่ายนะคะ (ดูจากในเวปของวาสลีนก็มีแต่ขนาด 450 มล. อย่างเดียว ตอนไปหาซื้อ ก็หาซื้อค่อนข้างยากเลยค่ะ ไปหาอยู่ประมาณ 5 ที่ ไม่มีเลย มีแต่สูตรกระจ่างใสกับสูตรเย็น มาได้สูตรนี้เอาที่ๆ 6 คือที่วัตสัน เซ็นทรัล เวสเกตค่ะ