ปัจจุบันการฉีด ฟิลเลอร์ เป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการคืนความอ่อนเยาว์ให้กับใบหน้า ช่วยปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน พร้อมกับฟื้นฟูสุขภาพผิวให้กลับมาเต่งตึงได้อย่างเห็นผล การฉีดฟิลเลอร์ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ? มีข้อดีอย่างไร ? ทำไมถึงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง มาทำความรู้จักกับฟิลเลอร์ให้มากขึ้น เพื่อตัดสินใจว่าคุณควรฉีดฟิลเลอร์หรือไม่ ?
ฟิลเลอร์ คืออะไร ? ช่วยเรื่องอะไร ?
ฟิลเลอร์ (Filler) คือสารเติมเต็มประเภทสารไฮยาลูโรนิค (Hyaluronic Acid : HA) ซึ่งเป็นสารสังเคราะห์ที่ผลิตขึ้นเพื่อเลียนแบบสาร HA ที่มีอยู่ตามธรรมชาติในร่างกายมนุษย์ ทำหน้าที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง ช่วยให้ผิวมีความแข็งแรง ยืดหยุ่นและเต่งตึง
เมื่ออายุเรามากขึ้น สาร HA เดิมตามธรรมชาติจะลดน้อยลงเรื่อย ๆ ส่งผลให้ผิวขาดความยืดหยุ่น เกิดปัญหาผิวหย่อนคล้อย มีริ้วรอยร่องลึกตามบริเวณต่าง ๆ บนใบหน้า
แต่เมื่อมีการฉีดฟิลเลอร์ เข้าไปช่วยเติมเต็มหรือเสริมชั้นในผิวหนังและใต้ผิวหนังอย่างเหมาะสม ก็จะช่วย ลดปัญหาผิว ลดริ้วรอยร่องลึกต่าง ๆ ลง สามารุเรียกคืนความอ่อนเยาว์ให้กลับมาอีกครั้งได้อย่างเห็นผล จึงเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และเป็นหัตถการอันดับต้น ๆ ที่แพทย์แนะนำ สำหรับผู้ที่ต้องการมีใบหน้าเด็ก ผิวกระชับ เปล่งปลั่ง
ฟิลเลอร์ ฉีดจุดไหนได้บ้าง ?
ฟิลเลอร์สามารถฉีดได้หลายจุดบนใบหน้า เพื่อเติมเต็มผิวหรือปรับรูปหน้าให้สมส่วน โดยมีจุดฉีดฟิลเลอร์หลัก ๆ 7 จุด ที่ได้รับความนิยม เพราะหลังฉีดสามารถสร้างมิติใหม่ให้ใบหน้า ลดริ้วรอย และเติมเต็มร่องลึก ใบหน้าดูอ่อนเยาว์สวยงามได้อย่างชัดเจน ดังนี้
- ฟิลเลอร์หน้าผาก : ช่วยปรับโหงวเฮ้ง หน้ามีมิติ
- ฟิลเลอร์ขมับ : ใบหน้าได้สัดส่วน ดูหวานละมุน
- ฟิลเลอร์ใต้ตา : แก้ปัญหาร่องริ้วรอยใต้ตา ใต้ตาดำคล้ำ
- ฟิลเลอร์ร่องแก้ม : ลดริ้วรอย ร่องแก้ม ให้ตื้นเขิน
- ฟิลเลอร์แก้มส้ม : ใบหน้าอิ่มเอิบ มีชีวิต ชีวา
- ฟิลเลอร์ปาก : ปากทรงสวยชุ่มชื้น มีความอวบอิ่ม
- ฟิลเลอร์คาง : เสริมความยาวคาง ปรับหน้าเรียว V Shape
หลังฉีดฟิลเลอร์ กี่วันเห็นผล ?
หลังจากฉีดฟิลเลอร์ สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันที โดยอาจมีอาการบวมเล็กน้อยในช่วงแรกจากนั้นประมาณ 2 สัปดาห์ อาการบวมจะลดลง ฟิลเลอร์จะเข้าที่และดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
ฟิลเลอร์ อยู่ได้นานแค่ไหน ? ทำอย่างไรให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น
การคงอยู่ของผลลัพธ์ที่สวยงามหลังฉีดฟิลเลอร์ จะอยู่ได้ ประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ/รุ่น ของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ และการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์อย่างเหมาะสม หากต้องการคงผลลัพธ์ให้ยาวนานขึ้น สามารถกลับมาฉีดซ้ำได้
ต้องรอให้ฟิลเลอร์เดิมสลายหมดก่อนไหม ถึงจะฉีดเพิ่มได้ ?
การฉีดฟิลเลอร์ ไม่ว่าจะตำแหน่งไหนสามารถเติมใหม่ได้เรื่อย ๆ ตามความเหมาะสม โดยไม่ต้องรอให้ฟิลเลอร์ที่เคยฉีดไปแล้วสลายหมดก่อน
อยากฉีดฟิลเลอร์แล้วคงผลลัพธ์ได้นานขึ้น ต้องทำอย่างไร ?
หากต้องการให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นาน การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์เป็นสิ่งสำคัญ โดยควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
- หลีกเลี่ยงการแตะ แกะ เกาและกดนวดในจุดที่ฉีด
- ควรอยู่ในที่อากาศเย็น หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อย 48 ชม. เช่น ซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ตากแดด
- งดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิดอย่างน้อย 1 เดือน
- แนะนำดื่มน้ำมาก ๆ อย่างน้อยวันละ 6 – 8 แก้วหรือ 2 ลิตร/วัน โดยเฉพาะช่วง 4 – 5 วันแรก การดื่มน้ำจะช่วยให้ฟิลเลอร์ที่เป็นสารอุ้มน้ำทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไร ? และควรกินอะไร ?
มีอาหารบางประเภทที่ไม่ควรกินในช่วงแรก เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น อาการบวมช้ำ อักเสบ หรือติดเชื้อหลังฉีดได้
หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกิน…
- อาหารหมักดอง งดในช่วง 2 สัปดาห์แรก
- อาหารรสจัด หวานจัด เค็มจัด โซเดียมสูง
- อาหารร้อน ปิ้งย่าง ชาบู เพราะส่งผลต่อการเข้าที่ของฟิลเลอร์
- อาหารดิบ หรือกึ่งสุกกึ่งดิบ เพราะอาจติดเชื้ออักเสบได้
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด งดในช่วง 2 สัปดาห์แรก
หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรกิน…
- ดื่มน้ำเปล่าให้มาก ๆ วันละ 1.5-2 ลิตร
- ผัก ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว วิตามินสูง
- อาหารที่มีโปรตีนสูง ไก่ ปลา ไข่ขาว ธัญพืช
ฟิลเลอร์ ปลอดภัยแค่ไหน ? มีผลข้างเคียงหรือไม่ ?
การฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่มีความปลอดภัย หากฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ชำนาญในการฉีดฟิลเลอร์ ใช้ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์แท้ และฉีดในคลินิกที่ได้มาตรฐาน
ผลข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์ที่ควรรู้
หลังฉีดฟิลเลอร์ อาจมีรอยช้ำ บวม หรือแดงบริเวณที่ฉีด เป็นอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นตามปกติ โดยเฉพาะคนผิวขาว ผิวบาง ช้ำง่าย ซึ่งอาการลักษณะนี้สามารถหายได้เองตามธรรมชาติ ในช่วง 1-2 สัปดาห์
กรณีผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ ที่หลาย ๆ กังวล เช่น ฉีดแล้วเป็นก้อน ฟิลเลอร์ไหล อักเสบ ล้วนเกิดจากเข้ารับบริการที่ไม่เหมาะสม ใช้ฉีดฟิลเลอร์ปลอม ฟิลเลอร์หิ้ว ผู้ฉีดไม่ใช่แพทย์ หมอกระเป๋า คลินิกเถื่อนที่หลอกล่อให้เข้าใช้บริการโดยโปรโมชันราคาถูก ๆ ซึ่งต้องระวัง อย่าเห็นแก่ของถูก
รู้ได้อย่างไรว่า เป็นฟิลเลอร์แท้ ตรวจเช็กอย่างไร ?
วิธีดูฟิลเลอร์แท้ จะมีจุดสังเกตหลัก ๆ ดังนี้
- มีเลขทะเบียน อย. ติดที่กล่องชัดเจน
- มีเอกสารกำกับภาษาไทย
- มีเลข Lot. ที่กล่อง ซอง สติกเกอร์หรือหลอด ตรงกัน
- สามารถนำเลข Lot. โทรเช็กกับบริษัทนำเข้าได้
อยากหน้าเด็ก ผลลัพธ์ประทับใจ เลือกฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ?
การเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ที่เหมาะสม เป็นจุดเริ่มต้นของความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีหลังฉีดได้ ก่อนฉีดฟิลเลอร์ควรพิจารณาสิ่งเหล่านี้ก่อนตัดสินใจ
- ต้องเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข
- ฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์มีประสบการณ์ มีความน่าเชื่อถือ ควรเช็กประวัติและดูผลงานแพทย์ก่อนตัดสินใจฉีด
- ฉีดโดยใช้ฟิลเลอร์แท้เท่านั้น คลินิกนั้น ๆ ควรยินยอมให้ตรวจเช็ก หรือแกะกล่องให้ดูต่อหน้า
- พิจารณาราคาที่สมเหตุสมผล (ราคาถูกเกินไปอาจเป็นสัญญาณอันตราย)
- ควรดูรีวิวของลูกค้าที่เคยมาใช้บริการ จากแหล่งที่เป็นกลางเชื่อถือได้
- คลินิกต้องมีการติดตามผลหลังฉีดทุกครั้ง
- สถานที่ การเดินทาง ที่จอดรถมีความสะดวก สามารถนัดคิวล่วงหน้าได้ มีช่องทางการติดต่อชัดเจน และติดต่อได้สะดวก
สรุป
การฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ได้อย่างเห็นผล และมีความปลอดภัยสูง เมื่อเข้ารับการบริการอย่างเหมาะสม เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้า แก้ปัญหาริ้วรอยร่องลึกที่เห็นผลไว สะดวก ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น แต่ข้อสำคัญต้องมาพร้อมความปลอดภัย เลือกฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ใช้ฟิลเลอร์แท้ ภายใต้คลินิกที่ได้มาตรฐานเท่านั้น