สิว ปัญหาที่ไม่สิวๆ ถ้าคิดว่าสิวผด สิวอุดตัน สิวเสี้ยนนั้นแย่แล้ว ขอบอกเลยว่า “สิวอักเสบ” นั้นแย่ยิ่งกว่า นอกจากจะทำให้ผิวอักเสบ บวมแดงมีหนองแล้ว เผลอๆ ยังทิ้งหลุมสิวให้ดูต่างหน้าอีกต่างหาก แล้วเราจะมีวิธีรักษาสิวอักเสบอย่างไรบ้าง ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับสิวอักเสบกันก่อน
สิวอักเสบคืออะไร?
สิวอักเสบคือพัฒนาการของสิวอุดตันที่มีแบคทีเรีย (P.acnes) เจริญเติบโตอยู่ในนั้นทำให้รูขุมขนและต่อมไขมันบริเวณนั้นเกิดการอักเสบบวมแดง ซึ่งสิวอักเสบสามารถแบ่งตามความรุนแรงได้ 5 ประเภท คือ
- สิวอักเสบนูนแดง (Papule) มีลักษณะเป็นตุ่มนูนแดง เจ็บเล็กน้อยเป็นระยะเริ่มต้นของสิวอักเสบ
- สิวอักเสบหัวหนอง (Pustule) มีลักษณะเป็นตุ่มนูนแดง มีหัวหนองอยู่ตรงกลางเป็นระยะต่อมาของสิวอักเสบนูนแดง
- สิวอักเสบแบบตุ่มแดงก้อนลึก (Nodule) มีลักษณะเป็นตุ่มนูนแดงเป็นก้อนลึกลงไปใต้ผิวหนัง คลำดูแล้วแข็งเป็นไต มีอาการปวดค่อนข้างมาก เกิดจากการไปกดบีบสิวอักเสบแบบ (Papule) ทำให้แบคทีเรียและน้ำมันกระจายใต้ผิวหนัง จนเกิดการอักเสบยิ่งกว่าเดิม
- สิวอักเสบถุงหนองใต้ผิวหนัง (Acne Cyst) มีลักษณะเป็นถุงน้ำใต้ผิวหนังขนาดใหญ่ บวมแดง มีหนองอยู่ข้างใน และมีอาการเจ็บมาก เมื่อสิวอักเสบชนิดนี้ยุบตัวลงมีโอกาสเกิดหลุมสิวสูง
- สิวอักเสบหัวช้าง (Acne Conglobata) เกิดจากการที่สิวอักเสบทุกประเภทขึ้นบริเวณใกล้เคียงกัน จึงรวมตัวเป็นสิวหัวช้างมีลักษณะเป็นตุ่มบวมแดงขนาดใหญ่ แม้บีบเอาหนองออกก็หายไม่หมด เพราะมีสิวอักเสบอยู่ข้างใต้อีกหลายเม็ด และมักทิ้งรอยแผล หลุมสิวเอาไว้
สิวอักเสบเกิดจาก
การเกิดสิวอักเสบมักเกิดจากฮอร์โมนไปกระตุ้นให้สิวเกิดการอักเสบ ซึ่งฮอร์โมนนั้นก็คือแอนโดรเจน (androgen) หรือฮอร์โมนเพศชาย โดยฮอร์โมนชนิดนี้จะไปเร่งการผลิตน้ำมันของต่อมไขมันส่งผลให้หน้ามันขึ้น ซึ่งน้ำมันคืออาหารอย่างดีของเชื้อ P.acnes ยิ่งชีวิตประจำวันของเราต้องออกไปเจอฝุ่น มลภาวะ และสิ่งสกปรก สิ่งเหล่านี้ไปอุดตันในรูขุมขนจึงเกิดเป็นสิวอักเสบตามมา อีกปัจจัยหนึ่งคือกรรมพันธุ์ถ้าคนในครอบครัวมีประวัติการเป็นสิวเราก็มีโอกาสสูงที่จะเป็นสิวด้วย นอกจากนี้ความเครียด ประจำเดือน นอนดึก การขับถ่าย การพักผ่อนไม่เพียงพอก็เป็นสาเหตุของการเกิดสิวอักเสบได้เช่นกัน
วิธีรักษาสิวอักเสบ
ทั้งสิวอักเสบและสิวอุดตันต่างต้องใช้ระยะเวลาในการรักษา โดยเราสามารถรักษาได้ด้วยวิธีการต่อไปนี้
- ล้างหน้าให้สะอาด ชะล้างความมันและสิ่งสกปรกที่เกาะอยู่บนผิวหน้า ก่อนล้างหน้าควรใช้คลีนซิ่งเช็ดทำความสะอาดผิวก่อน และไม่ควรล้างหน้าเกินวันละ 2 ครั้ง เพราะอาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง หน้าแห้ง จนไปเพิ่มการผลิตน้ำมันกระตุ้นการเกิดสิวมากยิ่งขึ้น
- ยาทากลุ่มเบนซอยเพอร์ออกไซด์ (Benzoyl peroxide – BP) ตัวยา BP จะไปฆ่าเชื้อ P.acnes และละลายสิวอุดตันช่วยให้หัวสิวหลุดออกง่าย สิวอักเสบที่ไม่มีหัวก็จะค่อยๆ มีหัวหนอง โดยยา BP จะมีความเข้มข้นอยู่ 3 ระดับ คือ 2.5%, 5% และ 10% ยิ่งเปอร์เซ็นต์มากการระคายเคืองก็มากไปด้วย หากบำรุงไม่ดีผิวหน้าก็จะแห้งกร้าน หลุดลอกได้ โดยยา BP จะทาทิ้งไว้ก่อนล้างหน้าประมาณ 5-15 นาที และสามารถเอามาทาแต้มสิวอักเสบได้
- ยาทากลุ่มเรตินอยด์ หรืออนุพันธ์ของกรดวิตามินเอ ยาทาในกลุ่มนี้จะช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวหนัง ช่วยลดสิวอุดตันและลดการอักเสบของสิว โดยกรดวิตามินเอจะซึมสู่รูขุมขนทำให้เซลล์ผิวหนังในรูขุมขนหลวมตัว สิวอุดตันจึงหลุดออกมาง่ายขึ้น บางรายที่ใช้อาจทำให้สิวเห่อขึ้นทั่วหน้าเพราะตัวยาไปผลักสิวที่อุดตันในรูขุมขนให้ขึ้นมา ทำให้บางคนถอนใจจนเลิกใช้ไปก่อน ซึ่งอาจแก้โดยทายาเฉพาะจุดแทน ยากรดวิตามินเอนี้ทำให้ผิวบางไวต่อแสงแดด ผิวแห้ง เป็นขุย หลุดลอกได้ จึงควรทาแค่ก่อนนอนวันละครั้งเท่านั้นและทากันแดดทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน
- ยาทา AHA (Alpha Hydroxy Acids) , BHA (Beta hydroxy acid) เป็นยาทาที่ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวหนังเช่นเดียวกับยาทากลุ่มเรตินอยด์ หรืออนุพันธ์ของกรดวิตามินเอ โดย AHA หรือ Glycolic acid จะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า ทำให้รอยสิวดูจางลง ส่วน BHA หรือ Salicylic Acid ช่วยลดความมัน ผลัดเซลล์ผิวเก่า ละลายไขมันอุดตันในรูขุมขน จึงช่วยลดสิว ลดอาการอักเสบ
- ยาแต้มสิว เราสามารถใช้ยาแต้มสิวแต้มไปยังสิวอักเสบโดยตรงเพื่อรักษาอาการอักเสบและฆ่าเชื้อแบคทีเรียทำให้สิวยุบลงไวยิ่งขึ้น โดยตัวยาแต้มสิวมักมีส่วนผสมของ Salicylic Acid, Zinc และส่วนผสมอื่นๆ ที่ทำให้สิวยุบตัวลง
- ยาทานปฏิชีวนะ มักใช้ในกรณีที่เป็นสิวมากใช้ร่วมกับยาทา ช่วยลดอาการอักเสบและฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินว่าควรใช้หรือไม่ ไม่ควรซื้อมาใช้เอง
- ยาคุมกำเนิด เหมาะกับคนที่เป็นสิวฮอร์โมน หรือรักษาวิธีอื่นมาแล้วไม่ได้ผล ควรปรึกษาแพทย์ก่อนซื้อมาใช้ โดยยาคุมกำเนิดจะไปเพิ่มฮอร์โมนเอสโตรเจน (estrogen) และลดฮอร์โมนแอนโดรเจนลง (androgen) ทำให้ผิวมันน้อยลงจึงช่วยลดการอุดตันในรูขุมขน ลดต้นเหตุของการเกิดสิว
- ฉีดสิวอักเสบ วิธีนี้แพทย์จะใช้ยาสเตียรอยด์ (Steroid) ที่มีฤทธิ์ลดการอักเสบฉีดลงไปที่สิวอักเสบเม็ดใหญ่ เหมาะกับคนที่เป็นสิวอักเสบชนิดรุนแรง หายยาก โดยแพทย์จะต้องระวังปริมาณยาที่ใช้ฉีด เพราะหากใช้ยามากเกินไปอาจทำให้รอยยุบลงไปได้
สิวอักเสบมีหนองกดออกดีไหม?
หากสิวอักเสบมีหนองโผล่ออกมาแล้วสามารถกดออกได้ ถ้ายังไม่มีหนองโผล่ออกมาหากกดเด็ดขาดเพราะจะไปกระตุ้นให้สิวเกิดการอักเสบมากยิ่งขึ้น สิวอักเสบที่เอาหนองออกแล้วจะช่วยให้ยุบไวยิ่งขึ้น ลดความเสื่ยงการเกิดหลุมสิว แต่หากไม่ชำนาญไม่ควรกดออกเองควรไปให้คุณหมอหรือผู้เชี่ยวชาญกดออกให้ เพราะถ้ากดสิวแบบผิดวิธีอาจทำให้ผิวช้ำ อักเสบ และทิ้งรอยแผลไว้ได้ หากหัวสิวไม่โผล่ออกมาเราสามารถใช้ยาแต้มสิวแต้มไปเรื่อยๆ จนกว่าหัวสิวจะออกได้
การใช้ยาทาหรือยาแต้มสิวเป็นวิธีที่นิยมในการรักษาสิวอักเสบมากที่สุด เพราะสามารถหาซื้อได้ง่าย มียาแต้มสิวมากมายที่ได้คุณภาพ ปลอดภัย และได้มาตรฐาน อย่าง 9 ยาแต้มสิวอักเสบยอดนิยมที่เราจะแนะนำกันวันนี้
1. Clinda M
โลชั่นน้ำแต้มสิวช่วยลดสิวอักเสบ ฆ่าเชื้อ P.acne ต้นเหตุของการเกิดสิว มีส่วนผสมของ Clindamycin Hydrochloride ช่วยรักษาสิว ทำให้สิวอักเสบ สิวหัวหนอง แห้งและยุบตัวได้เร็ว ตัวยาค่อนข้างแรงและมีส่วนผสมของแอลกอฮอลล์อาจทำให้ผิวบริเวณที่ทาแสบและแห้งเป็นขุยได้
2. Hiruscar Anti-Acne Spot Gel
เจลแต้มสิวสำหรับผิวแพ้ง่าย ไม่ทำให้ผิวแห้งเป็นขุยลอกเป็นแผ่นๆ ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย สลายสิ่งอุดตัน ควบคุมความมัน ลดรอยดำจากสิว และช่วยให้ผิวคงความชุ่มชื้น
3. TOMEI CLINDAI GEL
เจลแต้มสิวสำหรับสิวอักเสบโดยเฉพาะ มี Clindamycin 1% ช่วยฆ่าเชื้อ P.acne ต้นเหตุของการเกิดสิว ให้สิวอักเสบยุบตัวลง ตัวเจลอ่อนโยนต่อผิว ไม่ทำให้ผิวบริเวณที่ทาแสบ แดง แห้ง ลอก
4. Smooth E Acne Hydrogel
เจลแต้มสิวที่ช่วยให้สิวอักเสบยุบลงภายใน 24 ชั่วโมง ออกฤทธิ์ทันทีหลังใช้ไป 30 นาที อ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย ช่วยฆ่าเชื้อ P.acne สาเหตุหนึ่งของสิว ลดอาการอักเสบของสิว ลดความมัน ลดสิวอุดตัน และทำให้หัวสิวหลุดออกง่าย
5. Benzac AC Water Base Gel
ยาแต้มสิวแบบ Water Base Gel เกลี่ยง่าย ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของสิว ละลายสิวอุดตัน ทำให้สิวอักเสบยุบตัวลง ช่วยให้สิวอักเสบที่ไม่มีหัวมีหัวหนองโผล่ขึ้น ใช้ทาก่อนล้างหน้าหรือแต้มสิวอักเสบได้ ตัวยามีความเข้มข้นสูงอาจทำให้ผิวระคายเคือง แสบ แดง จึงควรใช้แต่น้อย
6. ACNOC Acneser Spot Gel
ยาแต้มสิวมีสารสกัดจากผิวเปลือกมังคุด เปลือกหอมหัวใหญ่ เนื้อเจลซึมง่าย ไม่ทำให้แสบผิว ช่วยลดการอักเสบของสิว ลดการสะสมของแบคทีเรีย ให้สิวอักเสบแห้งไวโดยไม่ทิ้งรอย และช่วยลดรอยดำจากสิว
7. Thursday Plantation Tea Tree Acne Gel
เจลแต้มสิวที่มีส่วนผสมของน้ำมันทีทรีบริสุทธิ์จากประเทศออสเตรเลีย ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ลดสาเหตุของการเกิดสิว ลดการอักเสบ มีกลิ่นหอมเย็น ช่วยทำให้สิวอักเสบแห้งและหายเร็วขึ้น ตัวยามีส่วนผสมของแอลกอฮอล์จึงอาจทำให้ผิวแห้งลอกได้
8. Tarel Natural Acne Gel
เจลแต้มสิวที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ 100% ข่วยรักษาได้ทั้งสิวอักเสบ สิวผด สิวอุดตัน ไม่ทำให้ผิวระคายใช้ได้กับผิวบอบบางแพ้ง่าย ตัวยาจะไปฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว ลดการอักเสบ และช่วยรักษารอยแดงรอยดำจากสิว
9. Vitara Anti Acne Gel
เจลแต้มสิวสูตรออกฤทธิ์เร็วใช้ได้กับสิวทุกประเภท ช่วยกำจัดแบคทีเรียต้นเหตุของสิวและความมัน ช่วยละลายหัวสิว ลดอาการอักเสบ สมานบาดแผล และป้องกันการเกิดสิวใหม่ ตัวยาไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ไม่ทำให้ผิวแห้ง แสบ แดง หรือระคายเคือง
ผลลัพธ์ในการใช้ยาแต้มสิวของแต่ละคนไม่เหมือนกัน จึงต้องลองใช้หลายๆ ตัวเพื่อหายาแต้มสิวที่ได้ผลสำหรับเรามากที่สุด สิวอักเสบเป็นแล้วต้องรีบรักษาเพราะหากปล่อยไว้นานผิวก็ยิ่งถูกทำร้ายเมื่อสิวหายไปก็อาจเกิดรอยหลุมสิวมาแทนที่ได้
ขอบคุณข้อมูลจาก :
https://medthai.com/
https://www.eucerin.co.th/
https://www.honestdocs.co/