สาวๆที่มีผิวแพ้ง่าย หรือผิวอ่อน แนะนำควรหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าหนักๆ เพราะการแต่งหน้าเป็นประจำทุกวันนั้นส่งผลเสียต่อผิวหน้าเราอย่างมาก และวันนี้ gangbeauty ได้นำ 4 เหตุผลที่คุณควรพักหน้าหลังจากการแต่งหน้าทุกวันบ้าง !!!
1. เกิดรูขุมขนอุดตัน
ตอนแต่งหน้าเราได้ทาอะไรลงไปบ้างทั้ง ไพร์มเมอร์ เบส รองพื้น คอนซีลเลอร์ แถมเติมหน้าในระหว่างวัน แน่นอนว่าผิวหน้าเราไม่ได้มีแค่เครื่องสำอางที่เราแต่งไปเท่านั้น แต่มันยังรวมถึงสิ่งสกปรกและความมันบนผิวหน้าเราอีก ก็ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมถึงเกิดการอุดตันได้ และถ้ายิ่งถ้าเราล้างเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกออกไม่หมดอีก ก็ยิ่งทำให้อุดตันกลายเป็นสิวตามมาได้ แปรงแต่งหน้าก็เช่นกัน ถ้าไม่เคยล้างเลยแม้สักครั้งเดียว ก็ยิ่งเท่ากับเป็นการเพิ่มความสกปรก และสิ่งอุดตันให้กับผิวเราเพิ่มเข้าไปอีก
2. เกิดริ้วรอยบนใบหน้า
การใช้เมคอัพเพื่อปกปิดริ้วรอย ยิ่งเราใช้เมคอัพปกปิดเท่าไหร่ ริ้วรอยกลับจะยิ่งเยอะตามมาเท่านั้น นั่นก็เพราะว่าเมคอัพไม่ใช่สิ่งที่สามารถล้างออกได้ง่ายๆ เราจึงต้องพึ่งที่ล้างเครื่องสำอางที่แรงพอที่จะทำความสะอาดได้หมดจด ทุกครั้งที่ทำความสะอาดผิว หน้าเราจะโดนทำร้ายจากการเช็ดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็นสาเหตุให้หน้าเหี่ยว และเกิดริ้วรอยก่อนวัย วิธีที่พอจะช่วยได้ก็คือให้ใช้ Cleansing oil เช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอาง เพราะมีความอ่อนโยนต่อผิวมากที่สุด
3. สารเคมีสะสม
ถ้าคุณแต่งหน้าทุกวันใน 1 ปี หน้าของเราจะได้รับสารเคมีจากเครื่องสำอางไปมากกว่า 2,000 กรัมเลยทีเดียว นอกจากนี้สารเคมีที่ใช้ซ้ำๆกันบนใบหน้าทุกวันนั้น สามารถสะสมและส่งผลเสียในระยะยาวกับผิวเราได้ เช่นอาการแพ้ที่จะไม่แสดงออกทันทีที่ใช้ แต่จะเห็นหลังจากมีการสะสมมาแล้วระยะหนึ่ง อีกอย่างที่แม้ว่าจะยังไม่มีหลักฐานยืนยันที่ชัดเจน แต่การสะสมของสารเคมีอาจเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดมะเร็งได้อีกด้วย ดังนั้นถ้าหากเป็นได้ ก็ควรเพลาเรื่องการแต่งหน้า ปล่อยให้หน้าได้พักผ่อนอาทิตย์ละวันสองวัน ก็จะช่วยลดความเสี่ยงนี้ได้
4. ให้ผิวได้พักหายใจบ้าง
หนึ่งในขั้นตอนของการดูแลผิวให้สวยใสไปนานๆ ก็คือการบำรุงผิวให้แข็งแรง และปล่อยให้ผิวได้พักจากการปกปิดด้วยสารพัดครีม รองพื้น และเครื่องสำอางบ้าง ซึ่งคนไม่แต่งหน้าก็จะมีโอกาสได้เผยผิวบ่อยกว่า และหน้าเด็กมากกว่า เวลาเป็นสิวขึ้นมาก็มีโอกาสหายเร็วกว่าการเอาคอนซีลเลอร์ไปโบกทับสิวบ่อยๆ