เมื่อผู้หญิงเข้าสู่วัยที่เป็นสาวอย่างเต็มตัว ระบบการทำงานต่างๆ ในร่างกายก็จะพัฒนาขึ้นและเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด ยกตัวอย่างการที่สาวๆ เริ่มมีประจำเดือน อาจทำให้เกิดสิว หรือฝ้าได้ง่าย รวมถึงปวดท้องน้อยอยู่บ่อยๆ ซึ่งปัญหาเหล่านี้นั้นเป็นปัญหาที่มักแก้ไม่ตก กว่าที่ร่างกายจะหายกลับมาเป็นปกติก็ใช้เวลานาน ปวดระบมไปทั้งตัวอยู่พักใหญ่ และยิ่งเรื่องของการที่ประจำเดือนมาไม่ปกติ ยาสตรีจึงกลายเป็นสิ่งที่เข้าแก๊ปกับคุณผู้หญิงมากที่สุด
ยาสตรีที่มีจำหน่ายกันโดยทั่วไปตามท้องตลาดนั้นเป็นยาแผนโบราณ ทางแพทย์แผนไทยถือว่าเป็นยาร้อน บำรุงธาตุไฟ ช่วยในการหมุนเวียนของเลือด เป็นยายอดนิยมที่สร้างยอดขายได้ปีละกว่าหลายร้อยล้านบาท มีทั้งชนิดแคปซูล เม็ด หรือน้ำ โดยมักให้สรรพคุณช่วยฟอกเลือด บำรุงเลือด บำรุงร่างกาย บำรุงผิวพรรณให้มีเลือดฝาดเปล่งปลั่ง บำรุงธาตุ เจริญอาหาร แก้ประจำเดือนมาไม่ปกติ แก้ปวดประจำเดือน แก้จุกเสียด ใช้ขับน้ำคาวปลา ทำให้มดลูกแห้งเร็ว ซึ่งยาสตรีเป็นยาที่สกัดมาจากสมุนไพร
ข้อควรระวังของยาสตรี
สำหรับข้อดีหรือสรรพคุณเกี่ยวกับยาสตรีกันไปแล้ว ขึ้นชื่อว่า “ยา” ก็เปรียบได้ดังเหรียญที่มีสองด้านเสมอ เรามาดูข้อเสียของมันกันบ้าง เพื่อความระมัดระวังในการรับประทานยาสตรี
1.เป็นมะเร็งหรือเนื้องอกของอวัยวะสืบพันธ์สตรี เช่นเต้านม, มดลูก, ปากมดลูก, รังไข่ ยาสตรีทำให้ มะเร็งกำเริบ เนื้องอกหรือซีสต์โตขึ้น
2.หากมีประจำเดือนมามาก ปวดประจำเดือนจากโรคช็อกโกแลตซีสต์ ยาสตรีทำให้ตกเลือดมากขึ้น โรตช็อกโกแลตซีสต์เป็นมากขึ้น
3.มีการอักเสบ ที่ช่องคลอด ปากมดลูกหรือมดลูก ยาสตรีเพิ่มการบวมของเนื้อเยื่อ เพิ่มตกขาว ทำให้การอักเสบรุนแรงขึ้น
4.เป็นโรคหัวใจอยู่แล้ว หรือเป็นความดันโลหิตสูง เส้นเลือดอุดตัน เส้นเลือดขอด หรือรับประทานยาละลายลิ่มเลือด ยาสตรีทำให้เกิดเส้นเลือดอุดตันมากขึ้น
5.อยู่ในช่วงให้นมลูก ยาสตรีออกน้ำนม แอลกอฮอล์ที่เป็นส่วนผสม อาจทำให้ลูกมีเลือดออกในสมองได้
ที่สำคัญคือสตรีมีครรภ์ ผู้ป่วยที่กำลังมีไข้สูง ผู้ที่แพ้แอลกอฮอล์ และผู้ที่ใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด ห้ามรับประทานยาสตรีโดยเด็ดขาด
ดังนั้น การรับประทานสมุนไพรทุกชนิด โดยเฉพาะยาสตรี ก่อนตัดสินใจซื้อมาใช้ ควรพิจารณาข้อดีข้อเสียให้ถี่ถ้วนเสียก่อน และต้องมีทะเบียนตำรับยาตามกฎหมาย “ยาสตรี” ซึ่งจัดเป็นยาสามัญประจำบ้านกลุ่มยาแผนโบราณ และถึงแม้ตนเองจะไม่มีข้อห้ามใดๆในการใช้ยาสตรี แต่หากรับประทานเข้าไปแล้วมีอาการผิดปกติ ก็ต้องหยุดรับประทาน เพื่อให้สามารถป้องกันแก้ไขได้แบบทันท่วงที