เวลาที่เราเป็นประจำเดือนเพื่อนๆมักจะเลือกผ้าอนามัยกันยังไงบ้างคะ หรือใครเคยมีปัญหาแพ้ผ้าอนามัยบ้าง จริงๆแล้วเรามีทางเลือกในการรับมือกับประจำเดือนมากกว่าแค่ผ้าอนามัยชนิดแผ่น หรือผ้าอนามัยแบบสอด นั่นคือถ้วยอนามัย (Menstrual Cup) แต่ในประเทศเราดูจะยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก หรือคนที่รู้จักก็อาจจะยังกล้าๆ กลัวๆ ไม่รู้มันเป็นไง วันนี้เรามีกระทู้รีวิวจากสมาชิกพันทิปคุณ ตะครุบ ที่ได้เขียนรีวิวประสบการณ์ครั้งแรกของตัวเองในการลองใช้ถ้วยอนามัยไว้ได้อย่างละเอียด เหมาะกับสาวๆที่กล้าๆกลัวๆไม่อยากลอง เราไปดูกันเลยค่า
(ข้อความต่อไปนี้เป็นข้อความจากกระทู้ที่สมาชิกพันทิปคุณ ตะครุบ ได้เขียนรีวิวเอาไว้)
คำเตือน: มีการพูดถึงประจำเดือน ช่องคลอด และความเจ็บปวดภายใน ใครอี๋ก็ข้ามไปนะคะ
เกริ่นนิดเผื่อใครไม่รู้จัก ถ้วยอนามัยคือวัตถุที่ทำหน้าที่เป็นภาชนะรองรับประจำเดือน วิธีใช้ก็สอดเข้าไปในช่องคลอด ถึงเวลาก็เอาออกมาล้างให้สะอาดแล้วใส่กลับเข้าไปใหม่ พอหมดรอบประจำเดือนก็เอามาต้มในน้ำร้อนเพื่อฆ่าเชื้อ มักจะทำจากวัสดุที่ปลอดภัยต่อการแพ้เช่นซิลิโคนทางการแพทย์ หรือ TPE ที่ใช้ทำจุกนม เป็นต้น อาจจะยังไม่เป็นที่นิยมหรือแพร่หลายในหมู่คนไทย เลยไม่มียี่ห้อที่ซื้อได้ในท้องตลาด ต้องซื้อออนไลน์ ก็เลือกยี่ห้อที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาของแต่ละประเทศ และหลีกเลี่ยงยี่ห้อที่ไม่มีที่มาที่ไปเนอะ
หน้าตาเป็นแบบนี้ มีหลายสี ขนาด รูปทรง ต่างกันไปตามยี่ห้อ (รูปจาก putacupinit.com)
ที่อยากลองใช้เพราะอ่านรีวิวสาวๆ ต่างประเทศในเน็ต แล้วก็สนใจในข้อดีของมัน เช่น
– สามารถรองรับประจำเดือนได้ถึง 12 ชั่วโมง สำหรับคนที่ประจำเดือนมาปกติ มันจะไม่อับและสะสมแบคทีเรียเหมือนผ้าอนามัยแบบสอดหรือแบบแผ่นที่ต้องคอยเปลี่ยนบ่อยๆ ทั้งวัน แล้วก็ใส่นอนได้ด้วย ไม่ต้องติดผ้าอนามัยแบบแผ่น 40 ซม.ที่ยาวยิ่งกว่ากางเกงในอีกต่อไป
– คล่องตัวพอๆ กับแบบสอด คือตอนใส่ไม่รู้สึกอะไรเลย ไม่อึดอัดแฉะแหมะเหมือนผ้าอนามัยแบบแผ่น ประกอบกิจกรรมแอคทีฟต่างๆ และกิจกรรมใต้น้ำได้
– ไม่ต้องมีเชือกอะไรห้อยออกมาให้ลำบากใจเวลาไปฉี่แบบผ้าอนามัยแบบสอด
– ถ้าใส่ถูกวิธี ก็แทบจะไม่รั่วออกมาให้เลอะเทอะเปรอะเปื้อนเลย
– มีอายุการใช้งานยาวนาน แต่ละยี่ห้อจะต่างกันออกไป ส่วนใหญ่อย่างน้อยๆ ก็อยู่ได้ 3 ปี ไม่ต้องเสียเงินไปกับผ้าอนามัยทุกเดือนๆ และยังดีต่อสิ่งแวดล้อมด้วย
พอสนใจจะใช้ อย่างแรกที่เราทำก็คือลองศึกษาถึงทางเลือกต่างๆ ในการใช้ถ้วยอนามัย ว่ามันมียี่ห้ออะไรยังไง ลักษณะยังไงบ้าง
พบว่าเราควรจะพิจารณาประเด็นต่อไปนี้ค่ะ
ขนาด
ยี่ห้อส่วนใหญ่จะมีสองขนาด คือเล็ก กับใหญ่ มีบางยี่ห้อที่แยกย่อยละเอียดลงไปอีก
พูดแบบคร่าวๆ และเหมารวม ขนาดเล็กก็เหมาะกับคนที่ประจำเดือนมาน้อย คนตัวเล็ก คนที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ คนที่ยังไม่เคยคลอดลูก
ส่วนขนาดใหญ่ก็จะเหมาะกับคนประจำเดือนมามาก คนตัวใหญ่ (ดูที่โครงร่างกายกับความสูงเป็นหลัก) คนเคยคลอดลูกแล้ว
แต่สำหรับคนที่ประจำเดือนมามากแต่ตัวเล็ก เขาแนะนำให้ใช้ขนาดที่เหมาะกับร่างกายเป็นหลัก แล้วใช้วิธีถอดถ้วยมาเททิ้งบ่อยๆ แทน เพราะอันขนาดใหญ่นอกจากความจุจะมาก เส้นรอบวงก็จะกว้างตามเนาะ อาจจะทำให้อึดอัดได้
ความกระชับ/ความอ่อนนุ่ม (firmness/softness)
จริงๆ มันคือความ firm กับ soft ซึ่งขอแปลออกมาอย่างนี้แล้วกันเนอะ
บางยี่ห้อจะมีตัวเลือกความกระชับมาให้ ยิ่งกระชับก็จะยิ่งอยู่แน่น โอกาสรั่วซึมน้อย แต่ตัววัสดุก็จะยิ่งแข็งค่ะ
ใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะปัสสาวะ ฉี่เล็ดง่าย หรือคนที่ปวดประจำเดือนอย่างหนัก ก็ควรจะเลือกแบบที่นุ่มๆ ยวบๆ มากกว่า
ส่วนคนที่เล่นโยคะ พิเลทิส ขี่ม้า ออกกำลังกายที่ได้บริหารน้องจิมิเป็นประจำอยู่แล้วก็เอาให้กระชับๆ ไปเลย
ความยาวถ้วย
อันนี้จะขึ้นอยู่กับว่าปากมดลูกเราอยู่ลึกแค่ไหน ซึ่งมันมีวิธีคลำเช็ค แต่เอาจริงๆ เราเองก็ไม่กล้าคลำเช็คค่ะ 555
ที่อ่านมา โดยทั่วไปถ้าไม่ได้เคยคลอดลูก ปากมดลูกก็จะอยู่ลึกเข้าไปหน่อย
ส่วนคนที่เคยคลอดลูกอาจจะปากมดลูกอยู่ตื้น ควรเลือกอันที่มีขนาดสั้นเป็นพิเศษ จะมีบางยี่ห้อที่มีรุ่นสั้นๆ โดยเฉพาะ
ส่วนคุณสมบัติอื่นๆ เช่นสี ที่จับตรงฐานถ้วย เป็นเรื่องรองๆ ลงมา ก็เอาตามความพึงพอใจส่วนบุคคลเลยค่ะ
แอบเล็งอยู่นาน ในที่สุดก็ตัดสินใจลองซื้อยี่ห้อ Me Luna มาค่ะ ซื้อในอีเบย์ เป็นยี่ห้อจากเยอรมัน
ที่เลือกยี่ห้อนี้เพราะมีหลายขนาด (S M L XL) หลายความยาว (มีปกติ และสั้น) หลายความยืดหยุ่น (มี Sport ที่เฟิร์มมาก, คลาสสิก คือเฟิร์มปานกลาง และ Soft ที่นุ่มกว่าเพื่อน) และที่จับมีหลายแบบ (มีแบบ stem, ball, ring, และโล้นๆ ไม่มีที่จับ – ยี่ห้ออื่นมักเป็น stem)
และในขณะที่เรากำลังงงๆ เด๋อๆ ว่าเราจะใช้แบบไหน ในเว็บ Me Luna ก็มีคำอธิบายอย่างละเอียดว่าแบบไหนเหมาะกับใคร
อ่านแล้วเคลียร์ดีค่ะ ประทับใจ ใครสนใจลองไปอ่านได้ http://meluna-usa.com/index.php/before-you-order/sizes-and-models
อันนี้คือถ้วยที่เราใช้ค่ะ สีฟ้า ความยาวปกติ ไซส์ S ความเฟิร์มปานกลาง ที่จับเป็นแบบ ring ที่เขาแนะนำว่าเหมาะกับ beginner
ลองใส่ครั้งแรก
หลังจากที่ถ้วยอนามัยมาส่งที่บ้าน ก็รู้สึกตั้งหน้าตั้งตารอมากว่าเมื่อไหร่เมนส์จะมาจะได้ลองใช้ดูสักที รออยู่เกือบสองอาทิตย์ ในที่สุดวันที่รอคอยก็มาถึง
จากที่อ่านมา หลักการใส่ถ้วยอนามัยก็คือเราต้องพับถ้วยให้เล็ก สอดเข้าไป แล้วพอถึงข้างในถ้วยก็จะป๊อป เด้งตัวเองออก แล้วก็จะเกาะอยู่ที่ผนังช่องคลอด ซึ่งวิธีพับสามารถทำได้หลายแบบตามรูป ว่ากันว่าแบบที่นิยมสุดคือรูปตัว C
(รูปจาก lipstickandpaintbrushes.co.uk)
ตอนแรกก็เลยลองพับตัว C ก่อน ของมันฮิตได้มันต้องมีเหตุผล
…
พับเสร็จแล้วก็เกิดความซีด และสงสัยว่าเราจะใส่สิ่งนี้เข้าไปได้จริงๆ ใช่ไหม
พอลองใส่ก็ปรากฏว่า ไม่สำเร็จจริงด้วยอะ ด้วยสรีระหรืออะไรก็ตามทำให้เราไม่สามารถใส่ถ้วยเข้าไปได้ด้วยการพับแบบตัว C เลยลองเปลี่ยนมาพับแบบ Punch-down แทน เพราะจะทำให้ส่วนปลายที่สอดเข้าไปมีขนาดเล็กลง ซึ่งได้ผล คราวนี้สอดเข้าแล้วจ้า ฮึบบบ
ใครที่เคยใส่ผ้าอนามัยแบบสอดมาก่อนน่าจะพอเก็ตว่าถ้าเราสอดมันไปได้ถึงจุดที่เหมาะที่ควร มันจะไม่รู้สึกอะไรเลย ไม่เจ็บ แต่ถ้าใส่ไม่ลึกพอมันจะเจ็บ
นี่ครั้งแรกที่ลองใส่ถ้วย เราเลยไม่รู้ว่าต้องใส่ลึกแค่ไหน ดูวิดีโอและในเน็ตก็ยังไม่แน่ใจ เลยคิดว่าต้องใช้ความรู้สึกเจ็บเนี่ยแหละเป็นตัววัด ซึ่งพอเราใส่เจ้าถ้วยไปประมาณนึง รู้สึกแน่นแล้ว ดันต่อยาก ก็ลองเดินไปมาดู พบว่ายังรู้สึกเจ็บแฮะ ยังไม่ใช่แน่ๆ รู้เลยต้องดันมันเข้าไปอีก เอ้า ฮึบบบ พอถึงจุดนี้มันก็มีความฝืดเคืองจนรู้สึกท้อในใจว่า เราจะใส่ได้ใช่ไหมวะ ฮือ ต้องได้สิ
ฉับพลันนั้นก็นึกถึงเทคนิคที่เคยอ่านตอนใช้ผ้าอนามัยแบบสอดว่า ให้ดันมันเข้าไปในจังหวะที่หายใจออก มันจะเข้าไปได้ง่ายขึ้น ก็เลยนำมาประยุกต์ใช้กับถ้วยอนามัย จนในที่สุดก็รู้สึกว่าไปถึงจุดที่น่าจะใช่ และได้ยินเสียงป๊อปเบาๆ อันเป็นสัญญาณของการที่ถ้วยที่พับอยู่เด้งเปิด พอลองเดินไปมาก็ไม่รู้สึกเจ็บแล้ว ดีใจมากๆ แทบจะจุดพลุ
ตอนนี้ก็เลยรู้แล้วว่าครั้งต่อไปจะต้องพับแบบ Punch-down แล้วก็พอจะกะความลึกที่ต้องสอดเข้าไปถูกแล้ว
เพิ่มเติม: ใครอยากเห็นภาพว่ามันเข้าไปทำงานกับเรายังไง แล้วถ้วยมันจะป๊อปยังไง ลองดูวิดีโอนี้ได้ค่ะ (แต่หุ่นในวิดีโอจะจิมิยาวเกินจริงนิดนึง ไม่ต้องตกใจไป)
ลองถอดครั้งแรก
หลังจากที่ใส่นอนหลับสบายไปหนึ่งคืน ก็ได้เวลาถอด
อย่างแรกคือไม่มีร่อยรอยความเลอะแต่อย่างใด อันนี้โล่งใจไปหนึ่งเปลาะ
จากที่อ่านมา ควรไปนั่งเอาออกบนโถชักโครกเพราะถ้าทำถ้วยหก จะได้หกลงในโถ ไม่เลอะเทอะ ก็ล้างมือให้สะอาดแล้วทำตามคำแนะนำ แต่พอเริ่มคลำๆ หาถ้วยไปก็ใจหาย เฮ้ย มันหายไปไหนวะ สิ่งที่เกิดขึ้นคือถ้วยมันเข้าไปลึกกว่าตอนใส่ และจับ ring ก้นถ้วยไม่ถึง ยิ้มละค่ะ ทำไงเนี่ย
สงบสติอารมณ์สักแป๊บ ลองพยายามผ่อนคลาย หายใจเข้าออก แล้วลองดึงใหม่ คราวนี้รู้สึกว่าพอจะจับถึงแล้ว ก็พยายามดึงออกมาทีละนิด สะกิดๆ มัน พบว่าสิ่งที่สำคัญคือห้ามเกร็ง หายใจเข้าออกสม่ำเสมอ แล้วก็เทคนิคเดียวกับตอนใส่คือจังหวะที่หายใจออกช่องคลอดมันจะผ่อนคลาย ตอนนั้นก็ออกแรงดึงมากกว่าปกตินิดนึง พอมันโผล่มาพ้นน้องก็ใช้มือบีบก้นถ้วยนิดหน่อยแล้วประคองจากก้นถ้วย แล้วในที่สุดก็ดึงออกมาได้สำเร็จ แฮ่กๆ
อ่านแล้วอาจจะน่ากลัว เออ ตอนนั้นก็กลัวจริงค่ะ แต่ทั้งหมดนี้เกิดในเวลาไม่ถึงห้านาที เอาจริงๆ เวลาที่แพนิกคือไม่ถึงนาทีเองมั้ง สุดท้ายมันก็เอาออกมาได้
สภาพถ้วยที่เอาออกมาก็ อืม ถ้าอธิบายละเอียดอาจจะอี๋เนาะ ก็ประจำเดือนอะ พบว่าเมื่อคืนมาไม่มาก ก็เอาไปเททิ้ง ล้างแบบให้น้ำไหลผ่านจนสะอาดปราศจากคราบ แอบดมพิสูจน์กลิ่นก็พบว่าโอเค ไม่มีกลิ่นอะไร แล้วก็ใส่กลับไปใหม่ คราวนี้คล่องกว่าเดิมแล้ว กะความลึกถูก พอปล่อยมือแล้วลองเดินดูก็สำเร็จในคราวเดียวเลย ไม่เจ็บละ
ลองหาอ่านในเน็ต เขาบอกว่าการที่ถ้วยเข้าไปลึกขึ้นกว่าตอนใส่ แปลว่ามดลูกอยู่ลึก ทางแก้คือใช้ถ้วยที่ใหญ่ขึ้น หรือไม่ก็ถ้วยที่มีที่จับแบบ stem ที่เป็นเส้นยาวออกมาจะดึงง่ายกว่า ซึ่งถ้วยที่ใหญ่ขึ้นนี่โอ้โห ฟหกด่าสว แค่อันนี้ก็แน่นจิมิจะแย่แล้วจ้า เพราะงั้นในอนาคตก็อาจจะเปลี่ยนเป็นรุ่นที่จับแบบ stem แทน ring แต่คิดว่าคงใช้อันนี้ต่อไปก่อนอีกสักพัก ไม่แน่อาจจะคล่องขึ้น
หลังจากถอดและใส่มาสองสามครั้ง
– ใส่มาสองวัน ไม่มีการซึมเปื้อนเลยจ้า แผ่นอนามัยที่ติดรองเผื่อไว้ขาวจั๊วะไร้ร่องรอย ถอดกับใส่แค่เช้า-เย็นก็ไม่มีปัญหาประจำเดือนล้นถ้วยแต่อย่างใด (แต่ประจำเดือนเราถือว่ามาน้อยนะ ถ้าคนมาเยอะๆ ก็อาจจะต้องถอดมาบ่อยกว่านี้)
– พบว่ามันไม่ได้เข้าไปลึกมากตอนจะถอดทุกครั้งแหละ บางครั้งก็รู้สึกว่ามันอยู่ที่เดิมเหมือนตอนใส่ ดึงออกง่าย ไม่รู้ปัจจัยคืออะไร
– ก่อนใช้มีความกลัวเรื่องตอนเอาออกจะหกเลอะเทอะ แต่ถึงตอนนี้ยังไม่เคยเจอปัญหานั้นเลยค่ะ เหมือนตอนดึงออกก็จับก้นถ้วยมั้ง มันก็ประคองอยู่ในมือไม่หก
– บางครั้งตอนใส่ก็ไม่ได้ยินหรือรู้สึกว่าถ้วยมันป๊อปเปิด แต่ก็ไม่มีอะไรรั่วไหล คิดเองว่ามันคงเปิดแล้วแหละ อ่านในเน็ตบอกว่าถ้าอยากชัวร์ว่าถ้วยมันหายพับแน่ๆ พอใส่เข้าไปแล้วให้บิดถ้วยเป็นวงกลม แต่ลองทำแล้วมันฝืดมาก แสบ บิดยากมาก ไม่เวิร์คเลยสำหรับเรา ไม่เอาแล้ว ต่อไปถึงไม่ได้ยินเสียงป๊อปเราก็จะเชื่อมั่นว่ามันเปิด ไม่ต้องการความชัวร์อะไรทั้งนั้นแล้วค่ะ บาย
– อันนี้อุบาทว์นิดนึงนะคะ ทำใจก่อนอ่าน คือตอนอุจจ้าแล้วเบ่ง แอบรู้สึกว่าถ้วยมันเลื่อนลงมาด้วย พอคลำๆ ดู มันก็ลงมาจริงๆ แต่ไม่ลงมาจนถึงขั้นออกมาข้างนอกหรือทำให้เจ็บ เลยคิดว่าต่อไปถ้าเวลาจะถอดออกมันเข้าไปลึกจนจับไม่ถึง ก็น่าจะใช้วิธีเบ่ง(?) ออกมาเพื่อเอาออกได้นะ
– ตอนใส่-ถอดครั้งแรกมีความแพนิก แต่สักแป๊บก็ชินละอะ สิ่งสำคัญคืออย่าเกร็ง หายใจเข้าออกปกติ คิดว่าถ้าคนเคยใส่ผ้าอนามัยแบบสอดมาก็น่าจะชินได้ในเวลาไม่นาน ยิ่งถ้าใครใช้แบบไม่มี applicator สอดด้วยมือนะ อันนี้จิ๊บๆ
– ตอนใส่อยู่เดินเหินสบายมาก มีคนบอกไว้ว่ามันคือความรู้สึกที่ถ้าเรานึกถึงมัน เราก็จะรู้สึกได้ว่ามันอยู่ตรงนั้น แต่ถ้าเราทำอย่างอื่นแล้วไม่ได้นึกถึงมัน ก็จะไม่รู้สึกว่ามีอะไรอยู่เลย ซึ่งมันเป็นแบบนั้นเลยค่ะ
สรุปคือ เราชอบนะคะ
ชอบที่ระหว่างวันไม่ต้องคอยกังวล เอาเข้าออกแค่เช้าเย็น แล้วก็การรู้สึกเหมือนไม่ได้ใส่อะไรเนี่ยแหละ
และคิดว่าจะใช้ต่อไปในเดือนหน้าๆ ลาก่อนการซื้อผ้าอนามัย เย่
ใครมีข้อข้องใจสงสัยอะไรถามได้นะคะ จะมาตอบ หรือถ้าเขิน จะหลังไมค์มาถามก็ได้
หรือใครที่ใช้ถ้วยอนามัยอยู่แล้วมีเทคนิคมาแบ่งปันก็บอกกันได้นะคะ ยังมือใหม่อยู่เหมือนกันค่ะ
อ่านลิงค์เต็มได้ที่ : รีวิวสำหรับสาวๆ ที่กล้าๆ กลัวๆ : ลองใช้ถ้วยอนามัยเป็นครั้งแรก