สิวเสี้ยน เกิดจากความผิดปกติของต่อมรูขุมขน มีลักษณะคล้ายกับสิวอุดตันหัวดำและมีกระจุกขนเล็กๆ ตามใบหน้า หรือมีหนามแหลมๆ ยื่นออกมาทางรูขุมขน โดยมักพบขึ้นบริเวณปลายจมูก หน้าผาก ข้างแก้ม บริเวณคาง คอด้านหลัง โดยคนทั่วไปมักใช้ในความหมายของ “ก้อนไขมันอุดตัน” หรือที่เรียกว่า คอมีโดน (Comedone) จะเป็นสิวเสี้ยนที่เกิดจากต่อมไขมันผลิตไขมันมากเกินไป ทำให้ไขมันหลั่งออกมาไม่ทัน จนเกิดเป็นก้อนอุดตันขึ้นมาในท่อรูขุมขน บางครั้งก้อนไขมันอุดตันก็ไม่มีรูเปิด ทำให้เห็นเป็นสิวหัวขาวฝังอยู่ในผิวหนัง
1. เริ่มจากดูแลตัวเอง เราสามารถลดสิวเสี้ยนได้ด้วยวิธีการง่ายๆ โดยการรักษาความสะอาดบนใบหน้า พยายามอย่าให้หน้ามัน หากหน้ามันระหว่างวันก็ให้ใช้ทิชชู่ซับหน้าแทนการใช้กระดาษซับมัน หรือจะล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าแล้วซับหน้าให้แห้งก็ได้ และไม่ควรล้างหน้าเกินวันละ 2 ครั้ง พยายามเลือกใช้เครื่องสำอางที่ช่วยดูดซับความมัน เลือกผลิตภัณฑ์บำรุงที่มีเนื้อบางเบา เช่น แบบเจลหรือโลชั่น และใช้ในปริมาณน้อย เพื่อลดการอุดตันบริเวณรูขุมขน และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ได้สัดส่วนที่เหมาะสม เน้นรับประทานผักและผลไม้ให้มากๆ เลี่ยงอาหารที่มีไขมันมาก ดื่มน้ำสะอาดวันละ 6-8 แก้ว
2. หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง การรักษาต้องมาควบคู่กับการป้องกัน คุณควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดสิวเสี้ยนไม่ว่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้หน้ามันหรือปัจจัยที่เป็นตัวกระตุ้นให้รูขุมขนกว้าง เช่น บำรุงผิวหน้าจนเกินความจำเป็น บีบสิวเสี้ยนหรือกดสิวเสี้ยนด้วยตัวเอง รวมไปถึงการนวดหน้า ขัดหน้าบ่อยๆ เช็ดถูกหน้าแรงๆ จนเป็นการรบกวนรูขุมขน ทำให้รูขุมขนกว้างและก่อให้เกิดการอุดตันได้ง่ายจนกลายเป็นปัญหาไม่รู้จบ
3. เบนซอยเพอร์ออกไซด์ (Benzoyl peroxide – BP) หรือยาบีพี ให้นำมาใช้ทาให้ทั่วหน้าก่อนการล้างวันละ 2 ครั้ง ทั้งเช้าและเย็นหรือก่อนนอน โดยให้ทาทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด ยานี้จะออกฤทธิ์ไปลดปริมาณไขมันที่ผิวหนังและช่วยละลายสิ่งสกปรกที่อุดตันตามรูขุมขน จึงช่วยลดการอุดตันของต่อมไขมันได้ เริ่มต้นควรใช้ในขนาดความเข้มข้นต่ำก่อนหรือขนาด 2.5% เมื่อผิวเริ่มชินกับยาแล้ว จึงค่อยเพิ่มระยะเวลาการทาให้นานขึ้น และเพิ่มความเข้มข้นของยาเป็น 5% หรือ 10% ไขมันที่อุดตันก็จะถูกละลาย แต่ขนที่คุดเป็นเส้นดำๆ นั้น อาจต้องใช้วิธีอื่นร่วมด้วย เช่น การกดออก
4. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ประเภท AHA และ BHA (ยาละลายสิวเสี้ยน) เพราะมันจะช่วยทำให้ไขมันอ่อนตัวลง ทำให้เราสามารถเอาสิวเสี้ยนออกมาได้โดยง่าย เมื่อเรานำเอาสิวเสี้ยนออกจากรูขุมขนของเราได้แล้ว ก็ต้องกระชับรูขุมขนด้วยโทนเนอร์ทันที เพียงเท่านี้ก็สามารถลดการเกิดสิวเสี้ยนได้แล้วล่ะ สำหรับผลิตภัณฑ์ประเภท BHA อาจหาได้ไม่ง่ายนัก แม้ว่าจะใช้ชื่อ BHA (Beta hydroxyl acid) แต่บนฉลากมักเขียนว่า Salicylic acid แถมเรายังไม่รู้ด้วยว่ามี BHA ผสมอยู่มากพอที่ช่วยละลายไขมันได้หรือไม่ เลยทำให้คนใจร้อนรู้สึกว่ามันเห็นผลช้า
5. ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเรตินอยด์ (Retinoids) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยละลายการอุดตันของต่อมไขมัน ลดการเกาะตัวของเซลล์ผิวหนัง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์บริเวณรูขุมขน จึงช่วยป้องกันการเกิดสิวเสี้ยนใหม่และช่วยทำให้สิวเสี้ยนหลุดออกมาได้ง่าย ในปัจจุบันมีให้เลือกทั้งแบบแอลกอฮอล์เบสและแบบวอเตอร์เบส ส่วนการเลือกใช้ก็ดูว่าเราเหมาะกับแบบไหนมากกว่ากัน ระหว่าง เรตินเอ (แอลกอฮอล์เบส) หรือ ดิฟเฟอริน (วอเตอร์เบส) โดยเรตินอยด์นั้นจะมีการทำงานคล้ายกับ BHA แต่จะให้ผลรวดเร็วทันใจกว่า ทำให้สิวเสี้ยนหลุดออกมาจากรูขุมขนได้ง่ายขึ้น ยิ่งถ้าใช้ร่วมกับมาส์กลอกสิวเสี้ยนและทำการกระชับผิวด้วยโทนเนอร์และเจลสำหรับกระชับรูขุมขนละก็ ผิวของคุณก็จะเรียบเนียนสมใจอยากแล้วล่ะ
6. ลอกหน้าด้วยกรดผลไม้ (Chemical peeling) เป็นกรรมวิธีที่ทำให้เกิดการหลุดลอกของเซลล์ผิวหน้ารวมทั้งไขมันที่อุดตัน ด้วยการใช้กรดผลไม้ (AHA) หรือใช้ Trichloracetic acid (TCA) ก็ทำให้สิวเสี้ยนง่ายต่อการกดออก แต่อย่างไรก็ตามวิธีนี้ก็มักได้ผลในระยะเวลาสั้นๆ คุณอาจต้องทายาร่วมด้วยเพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ
7. ใช้เครื่องมือกดสิว นำมากดบริเวณที่เป็นสิวเสี้ยนดำ ถ้าเป็นสิวหัวดำก็จะมีก้อนไขมันสีดำผุดออกมา แต่ถ้าเป็นสิวเสี้ยนชนิดเส้นขนก็อาจได้กระจุกเส้นขนอุดตันหลุดออก แต่ต้องทำด้วยความระมัดระวัง เพราะอาจทำให้ผิวหนังระคายเคืองได้
8. แผ่นลอกสิวเสี้ยน ที่ลอกสิวเสี้ยนอาจจะอยู่ในรูปของแผ่นแปะจมูกที่เคลือบสารทำให้ติดแน่น เมื่อนำมาแปะจมูกทิ้งไว้สักพัก หรือจะใช้สาร cyanoacrylate polymer glue ซึ่งมีคุณสมบัติในการติดแน่นคล้ายกาวตาช้าง นำมาทาบนแผ่นสไลด์ แล้วนำมาแปะบริเวณที่เป็นสิวเสี้ยน แล้วดึงออก สิวเสี้ยนก็จะหลุดออกมา วิธีนี้ได้รับความนิยมกันมาก เพราะราคาทำไม่แพง เห็นผลทันใจ สามารถทำให้สิวเสี้ยนหลุดออกไปได้บ้าง แต่มักกำจัดได้ไม่หมด และไม่สามารถกำจัดสิวเสี้ยนได้ทุกที่ แต่ก็ควรระวังด้วย เพราะสารเคมีเหล่านี้อาจก่อให้เกิดการแพ้ได้ และคุณไม่ควรทำเกินสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
9. มาร์คลอกสิวเสี้ยน หรือ ครีมลอกสิวเสี้ยน มีหลายยี่ห้อเลยครับ ที่ได้รับความนิยมก็ยี่ห้อนี้เลยครับ สะใจสุดๆ Blackhead EX Nose Clay Mask
10. สูตรไข่ขาวลอกสิวเสี้ยน สูตรนี้เป็นสูตรกำจัดสิวเสี้ยนที่ได้รับการยอมรับมาเป็นเวลานาน วิธีการทำก็เพียงแค่ทาไข่ขาวลงบนใบหน้าแล้วเอาทิชชู่โปะไว้ หลังจากนั้นก็ให้ทาไข่ขาวทับอีกที จากนั้นก็รอให้แห้งแล้วค่อยๆ ดึงออก โดยเริ่มดึงจากคางขึ้นมาจนถึงหน้าผาก สิวเสี้ยนก็จะหลุดออกมาตามทิชชู่ เมื่อทำเสร็จแล้วก็ล้างหน้าตามด้วยด้วยโทนเนอร์กระชับรูขุมขน และนี้คือผลลัพธ์ที่ได้ครับ
11. สูตรนมสดผสมผงเจลาติน สูตรนี้เป็นสูตรที่บล็อกเกอร์ความงามทั้งในและต่างประเทศต่างก็คอนเฟิร์มแล้วว่ามันใช้ได้ผลจริง ก่อนจะทำให้เราเตรียมผิวส่วนที่ต้องการจะลอกสิวเสี้ยนด้วย BHA หรือน้ำมะนาวสด อย่างใดอย่างหนึ่ง ทิ้งไว้แล้วค่อยลงมือทำ โดยวิธีการทำก็คือให้คุณใช้นมสดและผงเจลาตินในสัดส่วนที่เท่ากันผสมลงในถ้วย
เจลาตินลอกสิวคนให้เข้ากันแล้วนำไปเข้าเตาอบไมโครเวฟโดยใช้เวลาที่ 10 วินาที จากนั้นก็รอให้เจลาตินคลายความร้อนก่อน
เจลาตินลอกสิวเสี้ยนแล้วจึงนำมาทาตรงบริเวณที่ต้องการลอกสิวเสี้ยน (อย่าทาทั้งหน้า เพราะเวลาลอกจะเจ็บมากๆ) ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที (ถ้าครบเวลาแล้วแต่ยังไม่แห้งแสดงว่าคุณอาจทาส่วนผสมหนาไป คราวหน้าก็ให้ทาบางลงกว่าเดิม)
12. สูตรน้ำมะนาว สูตรนี้มีมะนาวเป็นพระเอก เพราะมะนาวมี AHA ที่ช่วยกำจัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้ว เพื่อให้เซลล์ใหม่ทำงานได้อย่างเต็มที่ และยังช่วยทำความสะอาดรูขุมขน จึงทำให้สิวเสี้ยนอ่อนตัวและออกมาจากรูขุมขนได้ง่ายยิ่งขึ้น แม้ว่าวิธีนี้อาจจะไม่ได้ผลรวดเร็วทันใจนัก แต่ถ้าทำเป็นประจำก็จะช่วยลดการเกิดสิวเสี้ยนใหม่และทำให้สิวเสี้ยนเก่าลดลงอีกด้วย นั่นก็คือ ให้เราคั้นน้ำมะนาว แล้วนำสำลีมาชุบน้ำมะนาวที่ได้แล้วนำมาทาตรงบริเวณที่เป็นสิวเสี้ยน ทิ้งไว้ได้ทั้งคืน โดยให้ทำก่อนการลงครีมบำรุงทั้งหลาย แต่ถ้าต้องการความอ่อนโยนมากกว่านี้ก็ให้นำน้ำมะนาวมาผสมกับน้ำเปล่าทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วค่อยนำมาทาหน้า แต่หากทนไม่ได้จริงๆ ก็ให้ล้างออก แล้วค่อยๆ เพิ่มเวลาให้นานขึ้นในวันถัดไป
13. เครื่องดูดสิวเสี้ยน มีทั้งแบบมือถือซื้อมาทำเอง หรือแบบเครื่องใหญ่ที่ใช้กันตามคลินิกทั่วไปครับ ที่จะใช้โอโซนร้อนเพื่อเปิดรูขุมขนก่อน เพื่อลดการอุดตัน และตามด้วยเครื่องดูดสูญญากาศดูดเอาสิ่งที่อุดตันออกมา ราคาต่อครั้งก็ไม่แพงครับ ประมาณ 150-250 บาท
14. ใช้เครื่องไอพีแอล (Intense pulse light – IPL) การทำไอพีแอลนั้นเป็นการส่งพลังงานแสงลงไปเพื่อกำจัดขนที่รากของมัน จึงทำให้ขนที่คุดคู้เหล่านี้หลุดออกได้ สามารถช่วยป้องกันการเกิดเซลล์ขนใหม่ในบริเวณดังกล่าวได้ เป็นวิธีที่ได้ผลดี มีผลข้างเคียงน้อย และสามารถทำได้ทุกบริเวณของร่างกายที่มีสิวเสี้ยน แต่การจะกำจัดให้ออกไปโดยสิ้นเชิงนั้นอาจต้องทำหลายครั้งหน่อย
15. เลเซอร์สิวเสี้ยน เป็นวิธีที่ช่วยกำจัดจุดดำๆ จากสิวเสี้ยนได้มากกว่าร้อยละ 50 และเมื่อทำหลายๆ ครั้งจะสามารถกำจัดสิวเสี้ยนได้เกือบหมด แต่ไม่ได้ช่วยเรื่องรูขุมขนกว้างที่อาจทำให้เกิดสิวเสี้ยนได้อีก หลังการทำอาจมีผลข้างเคียงคือรอยแดงบริเวณที่ทำ ซึ่งจะหายไปเองประมาณ 2-3 วัน วิธีนี้จะใช้ได้ผลดีในกรณีสิวเสี้ยนหัวดำ แต่มีค่าบริการค่อนข้างแพง