สุขภาพผิวย่ำแย่ มาจากหลายสาเหตุ ไม่รักษาความสะอาด กินของหวานมัน หรือกรรมพันธุ์ เหล่านี้ทุกคนรู้ดีอยู่แล้ว แต่ยังมีอีกหลายสาเหตุที่เราอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อนว่าพฤติกรรมต่อไปนี้ส่งผลกระทบต่อผิวของเราโดยตรงเช่นกัน !!!
1. เข้านอนโดยไม่ได้ล้างเมคอัพ
แน่นอนว่ามันจะทำให้รูขุมขนอุดตัน สิวก็จะตามมา แบคทีเรียยังเกาะติดอยู่ที่ปลอกหมอนอีกด้วย
2. ติดกาแฟ
คาเฟอีนเป็นสาเหตุของผิวแห้งและริ้วรอยแห่งวัย แทนที่จะดื่มกาแฟ หันมาดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ หรือผลไม้สดรสไม่หวานดีกว่า
3. บีบสิว แกะสิว
ทำให้แบคทีเรียและความสกปรกตกค้างอยู่ในรูขุมขน หน้าเป็นแผลเป็นไม่เรียบเนียน
4. โบ๊ะหน้าหนาๆ
แทนที่จะเพิ่มเติมความสวย กลับกลายเป็นตอกย้ำทำร้ายผิวเข้าไปอีก เพราะระหว่างวันใบหน้าของเราเผชิญกับสิ่งสกปรก ฝุ่นละออง เหงื่อไคล พอตกบ่ายโบ๊ะเครื่องสำอางทับลงไปอีก ทำให้เครื่องสำอางอุดตันรูขุมขนได้ง่ายขึ้น ก่อให้เกิดสิว หรือผื่นแดง
5. อาบน้ำอุ่นติดต่อกันเป็นเวลานาน
เมื่อไหร่ที่คุณรู้สึกคันและมีผื่นแดงขึ้นหลังจากอาบน้ำอุ่น ถึงเวลาต้องสลับมาอาบน้ำอุณหภูมิปกติได้แล้ว ความร้อนทำให้ผิวคุณแห้งผาก ไม่สดใส
6. ลองเมคอัพหลากหลายประเภท
คุณไม่มีทางรู้ว่าชิ้นไหนเหมาะกับผิวคุณ อาจเกิดอาหารแพ้ขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ได้ หากอยากทดลองใช้ให้ลองที่ท้องแขน หลังมือ เซฟกว่า
7. ดื่มน้ำน้อย
บำรุงผิวอย่างหนักแต่ดื่มน้ำไม่เพียงพอก็ไม่มีประโยชน์ เพราะน้ำทำให้ผิวดูชุ่มชื้น เปล่งปลั่งอย่างเป็นธรรมชาติ ดื่มน้ำวันละ 7-8 แก้วนะคะ
8. ดื่มแอลกอฮอล์
เพลาๆ ปาร์ตี้ลงบ้าง เพราะก่อนจะไปถึงโรคตับแข็งนั้น ผิวก็โดนไปเต็มๆ แอลกอฮอล์นั้นทำให้ขาดวิตามินบี และอีลาสตินบนผิวหน้า ส่งผลให้ผิวพรรณเสื่อมสภาพ เหี่ยวง่าย และแก่เร็วขึ้นด้วย
9. คุยโทรศัพท์
แปลกใจมั้ยว่าทำไมสิวบริเวณแก้มและกรามไม่หายไปสักที คำตอบคือ โทรศัพท์ของคุณสกปรก เต็มไปด้วยแบคทีเรีย เวลาคุยต้องเอาแนบหน้าเลยทำให้สิวผุดบริเวณนั้นไม่หยุดไม่หย่อน แนะนำให้ใช้แอลกอฮอล์เช็ดล้างโทรศัพท์บ่อยๆ
10. ใบหน้าสัมผัสกับสเปรย์จัดแต่งทรงผม
คราวหน้าคุณต้องหาผ้าขนหนูสะอาดมาบังหน้าไว้ สารเคมีจากสเปรย์ก็อันตรายต่อผิวหน้าใช่ย่อย
11. ไม่ทำความสะอาดแว่นกันแดด
เพราะแว่นตาก็ต้องสัมผัสกับผิวหน้าเช่นกัน คุณควรเช็ดทำความสะอาดสม่ำเสมอ ไม่อย่างนั้นสิวจะมาเยือนบริเวณโหนกแก้มและจมูกแน่นอน
12. พักผ่อนไม่เพียงพอ
ทำให้ผิวพรรณหม่นหมอง ใต้ตาดำคล้ำ หาเวลานอนให้ได้อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงนะคะ
13. แว็กซ์ผิวบ่อยเกินไป
การแว็กซ์บ่อยๆอาจทำให้ผิวหยาบกร้าน เป็นหนังไก่ ทางที่ดีควรเว้นระยะสัก 3 สัปดาห์
14. ละเลยริมฝีปาก
ผิวหน้าเต่งตึงแต่ริมฝีปากเหี่ยว แตกเป็นขุยก็ไม่ไหว เพราะริมฝีปากชุ่มชื้นก็แสดงถึงผิวสุขภาพดีได้ หาลิปที่ให้ความชุ่มชื้น ป้องกันแสงแดดมาทาริมฝีปากสม่ำเสมอ
15. ปลอกหมอนสกปรก
ตอนกลางคืนผิวจะผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว อาจตกค้างอยู่ที่ปลอกหมอน หรือใครที่ไม่ล้างเมคอัพแล้วเข้านอน แบคทีเรียต้องพรึ่บพรั่บเต็มปลอกหมอนแน่นอน ข้อแนะนำคือซักปลอกหมอนสองอาทิตย์ครั้ง ทำความสะอาดผิวหน้าก่อนนอนด้วยนะคะ
16. สครับผิว ขัดผิวบ่อยเกินไป
ทำให้ผิวสูญเสียน้ำมันธรรมชาติ หน้าแห้ง หยาบกร้าน แนะนำว่าสครับอาทิตย์ละครั้งก็เพียงพอ และการขัดผิวบ่อยๆ นั้นก็ทำให้ผิวหน้าบางลง ทำลายเกราะป้องกันผิวจนผิวบอบบาง แพ้ง่าย และอาจเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควรด้วย
17. หน้านิ่วคิ้วขมวดตลอดเวลา
ทำให้ใบหน้าเกิดริ้วรอยได้ง่าย ดูอารมณ์บูดไม่น่าเข้าใกล้อีกด้วย
18. ร่างกายได้รับโซเดียมมากเกินไป
คนที่ชอบกินรสเค็มฟังไว้ มันจะดูดกลืนความชุ่มชื้นจากผิว ทำให้ผิวพรรณแห้งผากไม่เปล่งปลั่ง กินรสกลางๆค่อนไปทางจืดดีกว่า ยืดชีวิตด้วย!
19. ชอบกินหวาน
น้ำตาลปริมาณมากจะไปลดการผลิตคอลลาเจน ทำให้ใบหน้าเหี่ยวคล้อย ถ้าอยากจริงๆแนะนำน้ำตาลธรรมชาติจากผลไม้ดีกว่า
20. ถอนขนคิ้วบ่อยเกินไป
ถอนขนบ่อยๆเป็นการทำร้ายผิว จะให้ดีก่อนถอนให้นำผ้าขนหนูชุบน้ำร้อนบิดหมาดมาวางบริเวณที่จะถอนเพื่อเปิดรูขุมขน หลังจากถอนเสร็จให้ทาโลชั่นว่านหางจระเข้เพื่อหลีกเลี่ยงขนคุด