ผู้หญิงก็ต้องมาคู่กับเรื่องของความสวยความงาม หลายคนเลือกที่จะดูแลผิวหน้าด้วยสูตรพอกหน้าต่างๆ ที่ใช้ส่วนผสมมาจากของในครัวและผลิตผลจากธรรมชาติ รวมไปถึงตัวยาอื่นๆ ที่ใช้ในการรักษาสิวฝ้ากระ ถึงแม้ว่าทั้งหมดทั้งมวลนี้จะมีคุณสมบัติช่วยบำรุงบำเรอผิว แต่ทุกอย่างมันก็มีข้อจำกัดในการใช้เหมือนกันนะคะ วันนี้ Gang Beauty ก็เลยอยากรวบรวม 7 สิ่งที่สามารถนำมาใช้บนผิวหน้าได้แต่จำเป็นต้องระมัดระวัง เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวหน้าเกิดอาการระคายเคืองและอักเสบ พร้อมแล้วมาดูกันว่ามีสิ่งใดบ้าง
1. น้ำมะนาว
https://pixabay.com
น้ำมะนาวช่วยกำจัดรอยดำรอยสิวได้ แต่มีค่า pH เป็นกรดที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ อีกทั้งยังทำให้ผิวบางลงและไวต่อแสง ยิ่งใช้น้ำมะนาวโดนกับผิวโดยตรงจะทำให้ผิวบางเมื่อไปถูกแสงแดด ดังนั้นควรใช้น้ำมะนาวผสมกับส่วนผสมอื่นในการรักษาสิวและจุดด่างดำ อย่างเช่น ดินสอพอง เพื่อลดการสัมผัสโดยตรงกับผิวค่ะ
2. เบกกิ้งโซดา
http://capl.washjeff.edu
เบกกิ้งโซดามีค่าความเป็นกรดเบสที่สูงกว่าค่ากรดเบสของผิวหน้าธรรมชาตินะคะ โดยปกติค่ากรดเบสของผิวหน้าเราคือ pH 5 แต่เบdกิ้งโซดามีค่า pH 9 ซึ่งอาจทำให้ผิวหน้าแห้งระคายเคือง หรือเกิดอาการแพ้ อีกทั้งถ้าใช้ไม่เป็นก็อาจจะทำให้หน้าบางลง ดังนั้นสาวๆ ไม่ควรใช้เบกกิ้งโซดาบ่อยๆ หรือใช้นานเกินกว่า 15 นาที เพื่อไม่ให้ผิวหน้าเกิดความระคายเคืองนะคะ
3. น้ำตาลทราย
https://pixabay.com
น้ำตาลทราย เป็นส่วนผสมสำคัญอย่างหนึ่งที่หลายคนนิยมนำมาขัดผิวเพื่อให้ผิวหน้าเนียนนุ่มขึ้น แต่หากน้ำตาลทรายที่นำมาใช้นั้นมีเม็ดขนาดใหญ่เกินไป ก็อาจจะส่งผลให้เกิดการบาดผิว จนเกิดอาการระคายเคือง และทำให้ผิวเกิดริ้วรอยได้นะคะ ยิ่งใช้บ่อยก็อาจจะทำให้ผิวเกิดอาการอักเสบได้ ดังนั้นไม่ควรใช้เป็นประจำ และควรใช้บนผิวที่เปียกน้ำด้วย จะช่วยถนอมผิวมากกว่า
4. ยารักษาสิว
twitter @orrberrykung
ยารักษาสิวช่วยให้สิวยุบเร็ว ที่หลายคนเลือกใช้เพื่อรักษาสิว แต่ในยารักษาสิวมีส่วนผสมของ Retin A และ Retinol ซึ่งตัวยาทั้งหมดนี้จะทำงานได้ดีในช่วงเวลากลางคืน แต่เป็นปัญหาถ้าหากใช้ในช่วงเวลากลางวันนะคะ ทำให้ผิวบาง ไวต่อแสง ซึ่งทำให้ผิวคล้ำและไหม้ได้ค่ะ ดังนั้นหากใครใช้ยารักษาสิวอยู่ ควรใช้เฉพาะเวลากลางคืน ก่อนนอน เมื่อทายาแล้วก็ควรปิดไฟทันทีเพื่อป้องกันผิวหน้า ไม่ให้เกิดการระคายเคืองค่า
5. ปิโตรเลียมเจล
https://negaam.news
ปิโตรเลีเลีม เป็นสิ่งที่ทำให้ผิวดูชุ่มชื้น หากแต่ว่าเกิดใช้มากเกินไป ความชุ่มชื้นเหล่านี้จะก่อให้เกิดความมัน ซึ่งไม่สมควรใช้บนใบหน้าเป็นระยะเวลานานๆ เพราะหากใช้ไปจะทำให้เกิดการอุดตันของสิ่งสกปรก จนเป็นสาเหตุของการเกิดสิวนะคะ ดังนั้นไม่ควรใช้ปิโตรเลียมเจลทั่วใบหน้า ควรเลือกใช้เฉพาะจุดที่รู้สึกแห้งนะคะ และไม่ควรทาทิ้งไว้ รวมถึงหลังใช้แล้ว ควรล้างหน้าให้สะอาดด้วยล่ะ
6. แอลกอฮอล์
https://www.wikihow.com
การใช้แอลกอฮอล์เช็ดผิวหน้าเป็นการช่วยฆ่าเชื้อและกำจัดแบททีเรียที่สะสมบนใบหน้าได้นะคะ แต่ว่าในขณะเดียวกันแอลกอฮอล์ก็ทำให้ผิวหน้าแห้งแตกและระคายเคืองได้ นอกจากนี้ แอลกอฮอล์ยังอาจจะทำร้ายเซลล์ผิวที่ดีอยู่แล้วก็ได้อีกด้วยเมื่อใช้บ่อยๆ ดังนั้นสาวๆ ไม่ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ และหลังใช้แอลกอฮอล์เช็ดผิวแล้วควรเติมครีมที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวทันทีอีกด้วยค่า
7. กากกาแฟ
https://kobieco.pl
การใช้กากกาแฟขัดผิวหน้า เพื่อช่วยให้กากกาแฟดึงเอาสิ่งสกปรกออกจากใบหน้านะคะ แต่กากกาแฟก็เหมือนกับน้ำตคาลทรายค่ะ คือมีความคมจนสามารถบาดผิวให้เกิดความระคายเคือง และเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอย หากใช้เยอะเกินไป กากกาแฟจะดูดเอาความชุ่มชื้นออกจากผิว ทำให้ผิวแห้ง ดังนั้นไม่ควรใช้กากกาแฟขัดผิวบ่อยๆ เกินไป หากจะใช้ให้ขัดเบาๆ แล้วทิ้งไว้บนใบหน้าในเวลาที่พอเหมาะ หรือนำไปผสมกับส่วนผสมอื่นๆ ที่ให้ความชุ่มชื้นอย่างเช่นน้ำผึ้งจะดีกว่านะคะ