เรื่องผิวหน้าที่ว่าต้องใส่ใจแล้ว เรื่องผมก็ไม่แพ้กันค่ะ ผมสวย ไม่แห้งเป็นไม้กวาดใครๆ ก็อยากมี วันนี้ GangBeauty เลยมี 8 ครีมหมักผม 2023 มาฝากค่ะ เป็นครีมหมักผมที่จะช่วยกู้ผมเสียของเราให้กลับมานุ่มสวยอีกครั้ง เพราะอย่างที่ผู้หญิงอย่างเราๆ รู้กันดี ผมยิ่งยาว ยิ่งเสียง่าย ร่วงเต็มพื้น แถมทำผม ผมก็ยิ่งเสียเพิ่มมากขึ้นไปอีก เลยต้องเพิ่มการดูแลมากเป็นพิเศษ แต่จะให้ไปนั่งบำรุงผมที่ร้านเดือนละหลายๆ ครั้ง กระเป๋าเงินก็คงไม่ไหว ทางออกก็คือ ครีมหมักผมนั้นเอง ใช้ง่าย สะดวก ทำได้ด้วยตัวเอง แถมปัจจับันมีหลายแบรนด์ให้เลือกใช้มากๆ เลือกไม่ถูกตามเรามาเลยค่า….
1. Pantene Pro-V Repair & Protect Hair Mask
Pantene Pro-V Repair & Protect Hair Mask ตัวนี้เป็นครีมหมักผมจากแบรนด์ Pantene ที่ทุกคนคุ้นเคยกันดี ตัวนี้เป็นครีมหมักผมสูตรพิเศษ ที่มีส่วนผสมของโปร-วิตามินและสารบำรุง ที่เข้ามาช่วยเน้นการฟื้นฟูเส้นผมที่แห้งเสียจากสาเหตุต่างๆ ที่สะสมมายาวนาน และช่วยเติมสารอาหาร
พร้อมทั้งบำรุงและเคลือบทุกเส้นผม ให้ผมนุ่มสลวยและแข็งแรงมากยิ่งขึ้น แถมตัวครีมหมักผมยังมีกลิ่นหอม ใช้แล้วให้ความรู้สึกสดชื่น กลิ่นหอมติดทนนาน ใช้ง่ายๆ เพียงหมักผมสัปดาห์ละครั้งค่ะ
ขนาด : 250 g ราคา : 199 บาท
2. Lolane Intense Care Keratin Repair Mask for Dry & Damaged
Lolane Intense Care Keratin Repair Mask for Dry & Damaged เป็นครีมหมักผมมีมายาวนานกว่า 30 ปี เป็นสูตรที่มีส่วนผสมของ Triple Keratin หรือ เคราตินทั้ง 3 ขนาด ด้วยนวัตกรรม Keratin Matching Intelligent ช่วยฟื้นฟูโครงสร้างของเส้นผมทุกระดับให้แข็งแรงและเสริมสร้างเกราะป้องกันจากมลภาวะ พร้อมทั้งช่วยมอบความชุ่มชื่นให้แก่เส้นผม ให้ผมนุ่มสลวย เงางามมีชีวิตชีวา
ยิ่งสาวๆ คนไหนที่ต้องไดร์ผม หนีบผม ม้วนผมป็นประจำ ตัวนี้ช่วยให้ผมไม่เสียค่ะ หลังใช้แล้วผมจะแตกปลายน้อยลง เส้นผมเรียงตัวสวย ปลายไม่พันกัน จัดทรงง่ายขึ้น ดูมีน้ำหนักมากขึ้นด้วยนะคะ ที่สำคัญตัวเนื้อครีมล้างออกง่ายค่ะ
ขนาด : 200 g ราคา : 135 บาท
3. TRESemmé Treatment Mask Keratin Smooth Red
TRESemmé Treatment Mask Keratin Smooth Red เป็นครีมหหมักผมเคราตินเข้มข้นที่ช่างทำผมมืออาชีพส่วนใหญ่ไว้วางใจ มีส่วนผสมของน้ำมันจากดอกทานตะวัน ช่วยบำรุ่งผมให้ชุ่มชื่นไม่แข็งกระด้าง ช่วยรักษาผมให้นุ่มลื่นดุจแพรไหม ไม่ชี้ฟูยาวนานถึง 48 ชั่วโมง แม้ต้องต่อสู้กับอากาศร้อนชื้นอย่างบ้านเรา
ตัวเนื้อครีมล้างออกง่าย มาพร้อมกับกลิ่นหอมอ่อนๆ หลังใช้แล้วผมนุ่มสวย เรียบลื่นจริง พร้อมช่วยให้ผมเงางาม ไม่พันกัน และช่วยให้จัดทรงง่ายขึ้นด้วยนะคะ ใช้ง่ายๆ โดยการชโลมครีมหมักผมบนผมเปียก โดยเน้นจากกลางจรดปลายผม ทิ้งไว้ 5 นาทีแล้วล้างออก ใครที่มีปัญหาผมแห้งและชี้ฟู บอกเลยค่ะว่าห้ามพลาด
ขนาด : 180 g ราคา : 145 บาท
4. Schwarzkopf BC Bonacure Moisture Kick Treatment
Schwarzkopf BC Bonacure Moisture Kick Treatment ตัวนี้เป็นครีมหมักผมที่ผลิตออกมาเพื่อตอบโจทย์สำหรับคนที่มีปัญหาด้านผมหยิก หยักศกโดยเฉพราะ ตัวเนื้อครีมเข้าช่วยบำรุงเส้นผมได้อย่างล้ำลึก มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูรอนิค ที่ช่วยให้ความชุ่มชื่นและช่วยให้ผมกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีขึ้น ทำให้ผมไม่แห้งเสีย แตกปลาย ให้ผมเงางาม มีน้ำหนัก และนุ่มสลวยยิ่งขึ้นค่ะ ตัวเนื้อครีมเข้มข้นแต่ล้างออกง่าย มีกลิ่นหอม
สำหรับครีมหมักผมตัวนี้มีแบบเป็นชุดทำความสะอาดผมแบบครบเซตด้วยนะคะ มีคอนดิชันเนอร์ สเปรย์ รวมถึงครีมบำรุงมาให้เลือกใช้ด้วย แบบบำรุงผมแบบจัดเต็ม สามารถซื้อใช้ควบคู่ด้วยกันได้ค่ะ
ขนาด : 200 ml ราคา : 972 บาท
5. Dove Intense Repair Treatment Mask
Dove Intense Repair Treatment Mask ตัวนี้เป็นครีมหมักผมเคราตินที่เราคุ้มเคยกันดี สูตรนี้เหมาะกับคนที่ทำสีหรือทำเคมีกับเส้นผมเป็นประจำ มีส่วนผสมของเคราตินที่ช่วยเติมเต็มโครงสร้างของเส้นผม เสริมให้เส้นผมยิ่งแข็งแรงขึ้น ช่วยลดปัญหาผมเปราะขาดง่าย แลมีส่วนผสมของน้ำมันเมล็ดทานตะวัน ช่วยให้ความชุ่มชื้นกับเส้นผมอย่างล้ำลึก ให้ผมนุ่มลื่น มีน้ำหนัก เรียงเส้นสวยเป็นระเบียบ ไม่ชี้ฟู หวีแล้วไม่พันกันค่ะ
ตัวเนื้อครีมค่อนข้างเข้มข้นแต่ล้างออกง่าย มาพร้อมกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ เหมาะมากๆ สำหรับคนที่ผมแห้งอย่างรุนแรง แต่สูตรนี้อาจจะไม่เหมาะสำหรับใครที่มีผมลีบแบนหรือต้องการวอลลุ่มนะคะ
ขนาด : 200 ml ราคา : 159 บาท
6. L’ORÉAL Paris Keratin Smooth Mask
L’ORÉAL Paris Keratin Smooth Mask ตัวนี้เป็นครีมหมักผมจากแบรนด์ L’ORÉAL Paris สูตรนี้เป็นสูตรที่มีเทคโนโลยีไมโคร-เคราติน (Micro-Keratin Technology) เป็นเคราตินที่มีขนาดเล็ก ช่วยเข้าซึมซาบและเติมเต็มเส้นผมถึงรากโคน ช่วยบำรุงผมให้มีสุขภาพดี เส้นผมนุ่มลื่น เงางาม และมีน้ำหนัก เหมาะมากสำหรับคนที่มีผมเสีย แห้งฟู ชี้ฟู แถมยังมี Hydra Elastin ที่ทำให้ผมเด้งพลิ้ว ยืดหยุ่น ไม่ลีบแบน พร้อมล็อกผมสวยได้อย่างยาวนานกว่า 72 ชั่วโมง
เนื้อครีมเข้มข้น ล้างออกง่าย ที่สำคัญทางแบรนด์ยังได้ระบุเอาไว้ว่า เวลาหมักผมไม่ต้องใช้เวลานาน แค่หมักทิ้งไว้ 1 นาทีก็สามารถล้างออกได้เลยค่ะ
ขนาด : 200 ml ราคา : 199 บาท
7. Innisfree Camellia Essential Hair Conditioner
Innisfree Camellia Essential Hair Conditioner เป็นครีมหมักผมากแบรนด์เกาหลี ที่มีส่วนผสมของดอกคาเมลเลียจากเกาะเชจู น้ำมันสกัดจากพืช
น้ำมันดอกคาเมลเลียเชจู ซึ่งในน้ำมันประกอบไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัว ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม พร้อมทั้งช่วยฟื้นฟูเส้นผที่แห้งเสียให้ผมกลับมามีสุขภาพดี คืนชีวิตชีวาให้กับผมที่ถูกทำลายจากการดัดและทำสี ให้ผมเรียบลื่น นุ่มสลวย และมีน้ำหนัก
ที่สำคัญครีมหมักผมตัวนี้ไม่มีส่วนผสมของซิลิโคน ทำให้ตัวเนื้อครีมไม่เข้าไปอุดตันเส้นผมค่ะ ใช้ง่ายๆ ด้วยการหมักผม ทิ้งไว้ 3 – 5 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดค่ะ
ขนาด : 200 ml ราคา : 400 บาท
8. Shiseido Fino Premium Touch
Shiseido Fino Premium Touch เป็นครีมหมักผมที่ได้รับความนิยมมากๆ จากญี่ปุ่น เป็นครีมหมักผมสูตรเข้มข้นสำหรับผมแห้งเสียมาก ไม่เพียงแค่เคลือบผมให้ดูเงางามแค่ภายนอก แต่มอบการบำรุงล้ำลึกถึงรากผม ผสานส่วนผสมระดับพรีเมียมเทียบเท่าเอสเซนส์ดูแลผิวหน้า ได้แก่ Royal Jelly ซึ่งอุดมไปด้วยกรดอะมิโนและแร่ธาต ช่วยฟื้นฟูเส้นผมที่เสียหายให้สุขภาพดียิ่งขึ้น และ PCA มอบความชุ่มชื่น
มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ได้จากการผสมผสานของ Leafy Green, Lemon, Raspberry, Soapy, Lily, Rose, Muguet, Woody ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ช่วยเส้นผมแข็งแรงสุขภาพดี มีน้ำหนัก ทิ้งตัวสวย ไม่พันกัน สัมผัสนุ่มลื่นจากโคนจรดปลายค่ะ หลังการใช้งานเพียงไม่กี่ครั้ง ผมก็จะเงางาม ไม่แตกปลาย มีสุขภาพดีจากภายใน อีกทั้งยังให้กลิ่นหอมแบบติดทนนานด้วยค่ะ
ขนาด : 230 g ราคา : 495 บาท
เป็นยังไงบ้างคะกับทั้ง 8 ครีมหมักผมที่เรานำมาฝาก ใครที่กำลังมองหาครีมหมักผมดีๆ ช่วยบำรุงเส้นผมอยากล้ำลึก เอาแบบหมดปัญหาผมแห้ง ผมชี้ฟู ให้ผมกลับนุ่มสวย มีน้ำหนัก ลองซื้อไปใช้กันดูนะคะ