วิธีรักษาสิวผด หนึ่งในปัญหาผิวหน้าของสาวไทย คือ สิวผด สิวอุดตัน ที่มักจะเห่อขึ้นมาตอนอากาศร้อน ต้องทำอย่างไรให้สิวผดหมดไป มาดู 9 วิธีรักษาสิวผดแบบง่ายๆ กันเถอะ
ด้วยอากาศบ้านเราที่มีทั้งความร้อน แสงแดด และมลภาวะ ส่งผลให้สาวๆ ต้องเจอกับปัญหาผิวสารพัด อย่างปัญหา “สิวผด” ที่เกิดจากการแพ้อะไรบางอย่าง โดยเฉพาะตอนอากาศร้อนๆ ก็ยิ่งเกิดเป็นผดผื่นแดงและคัน แต่ยิ่งล้างหน้าบ่อยกลับยิ่งเป็นมากขึ้น นั่นเพราะวิธีรักษาสิวที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้ผิวหน้าพังไปกว่าเดิม ดังนั้นมาดูกันว่าสิวผดคืออะไร มีสาเหตุจากอะไร แล้วจะมีวิธีรักษาสิวผดที่ได้ผลอย่างไรบ้าง
สิวผด คืออะไร
สิวผด (Acne Estivalis) เป็นสิวประเภทหนึ่งที่สามารถพบได้บ่อย มีลักษณะคล้ายกับผดผื่นเม็ดเล็กๆ สีแดงและอาจมีอาการคันร่วมด้วย มักเกิดขึ้นบริเวณใบหน้า โดยเฉพาะหน้าผากและขมับ โดยมีทั้งประเภทอักเสบและไม่อักเสบ ส่วนใหญ่สิวผดจะเห็นได้ชัดเวลาอากาศร้อนหรือมีเหงื่อออก เช่น มีสิวผดเห่อขึ้นตอนบ่าย และอาการจะลดลงไปเองในตอนเย็นหรือตอนเช้า
สิวผดเกิดจากอะไร
สิวผดเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ได้แก่
– เกิดจากเชื้อราชนิดหนึ่ง เรียกว่า P.OVALE ซึ่งเชื้อดังกล่าวจะทำปฏิกิริยากับผิวบริเวณต่อมไขมันบนผิวหน้า เช่น หน้าผาก จมูก คาง จนทำให้เกิดเป็นสิวผดขึ้นมา
– เกิดจากอาการแพ้ ซึ่งเป็นปฏิกิริยาของร่างกายต่อสิ่งแวดล้อมภายนอก โดยส่วนใหญ่มักเกิดจากผิวหนังโดนแสงแดดและความร้อน ทำให้ผิวหนังต้องเร่งการขับเหงื่อ แต่เมื่อต่อมเหงื่อไม่สามารถระบายเหงื่อออกได้หมด ก็จะทำให้เกิดการอุดตัน กลายเป็นตุ่มน้ำเล็กๆ คล้ายกับผดผื่น ถ้าอากาศร้อนขึ้น สิวผดก็จะเห่อขึ้น
– เกิดการระคายเคืองบนผิวหนัง เช่น การแพ้ครีมบำรุงผิว เครื่องสำอาง มลภาวะต่างๆ ในสิ่งแวดล้อม ทั้งทางน้ำและทางอากาศ
– การใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ไม่เหมาะสมกับสภาพผิว เช่น สาวที่มีผิวหน้าแห้ง แต่ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับหน้ามัน ก็จะทำให้ผิวหน้ายิ่งแห้งมากขึ้น จึงเกิดความระคายเคืองและกระตุ้นให้เกิดสิวผดได้
– อุณหภูมิของน้ำที่ใช้ล้างหน้าอุ่นหรือร้อนเกินไปก็สามารถกระตุ้นให้เกิดสิวผดและสิวประเภทอื่นได้
– การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด หรือรับประทานอาหารที่มีสารอาหารไม่ครบถ้วน ก็อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวผดได้เช่นกัน
วิธีรักษาสิวผด
เนื่องจากสภาพอากาศของประเทศไทยที่ร้อนชื้นอยู่ตลอดทั้งปี จึงทำให้สิวผดเป็นปัญหาผิวหนังที่รักษาให้หายขาดได้ยาก แต่อย่าเพิ่งตกใจไป เพราะสิวผดสามารถทุเลาลงได้ ด้วย 9 วิธีรักษาสิวผด ที่เรานำมาฝากกัน ดังนี้
1. หลีกเลี่ยงแสงแดด
แสงแดดและความร้อนเป็นสาเหตุหลักของปัญหาสิวผด แต่การหลีกเลี่ยงแสงแดดอาจทำได้ยากสักหน่อยในเมืองร้อนแบบนี้ ดังนั้นวิธีรับมือที่ง่ายที่สุดก็คือการใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดที่เหมาะสมกับสภาพผิว และไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน โดยควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีความมันน้อย เช่น ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 PA+++
2. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิวหน้า
หลีกเลี่ยงเครื่องสำอาง สกินแคร์ แชมพู และครีมนวดผม ที่อาจก่อความระคายเคืองแก่ผิว โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสาร AHA สาร BHA รวมถึงกรดวิตามินเอ หรือ Retinoids สาวๆ ลองดูฉลากผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่โดยด่วน ถ้ามีส่วนประกอบเหล่านี้ก็ควรงดเว้นไปก่อนเลย
3. ล้างหน้าอย่างถูกวิธี
การล้างหน้าบ่อยๆ จะยิ่งกระตุ้นการเกิดสิวผดให้รุนแรงขึ้น ดังนั้นจึงควรล้างหน้าแค่วันละ 2-3 ครั้ง ในระหว่างวันให้ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า ไม่ควรใช้น้ำอุ่นในการล้างหน้า หลีกเลี่ยงการล้างหน้าด้วยสบู่ และสำหรับสปอร์ตเกิร์ลทั้งหลาย หลังจากออกกำลังกายเสร็จก็ควรล้างหน้าทุกครั้ง เพื่อชำระล้างสิ่งสกปรก ความมันบนใบหน้า และแบคทีเรีย
4. เช็ดหน้าด้วยน้ำมะนาว
มะนาวมีกรดผลไม้ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก ทำให้รูขุมขนสะอาด และช่วยให้จุดด่างดำจางลง เพียงคั้นน้ำมะนาวสดๆ นำมาผสมกับน้ำอุ่นเล็กน้อย เพื่อไม่ให้น้ำมะนาวเข้มข้นจนเกินไป จากนั้นใช้สำลีชุบแล้วเช็ดบริเวณใบหน้าที่เป็นสิวผด ประมาณ 10-15 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำวิธีนี้สัปดาห์ละครั้ง สิวผดจะค่อยๆ ลดลง
5. พอกหน้าด้วยมะเขือเทศ
ในมะเขือเทศมีทั้งไลโคปีน แคโรทีนอยด์ เบต้าแคโรทีน และวิตามินต่างๆ ที่ดีต่อผิวพรรณ และยังสามารถรักษาสิวผดได้อีกด้วย แค่นำมะเขือเทศไปปั่นให้เป็นเนื้อเดียวกัน นำมาพอกหน้าทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น เป็นการฟื้นฟูผิวหน้าให้แข็งแรงขึ้น สิวผดและสิวอุดตันก็จะลดลงอย่างเห็นได้ชัด
6. หน้าใสด้วยไข่ขาว
นำไข่ไก่สดๆ มาแยกไข่ขาวกับไข่แดงออกจากกัน ใช้เฉพาะไข่ขาวมาพอกหน้าทิ้งไว้ 10-20 นาที แล้วล้างออก วิธีนี้จะเป็นการขับสารพิษออกมา ในช่วงแรกที่ทำจึงอาจมีสิวเห่อได้ ให้อดทนทำต่ออีก 2-3 วัน จะเห็นเลยว่าผิวหน้าเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ
7. ใช้ยาคีโตโคนาโซล (Ketoconazole)
สำหรับสิวผดที่เกิดจากเชื้อยีสต์ สามารถใช้ยาคีโตโคนาโซลในรูปแบบทาภายนอกได้ ซึ่งจะมีความปลอดภัยมากกว่าชนิดรับประทาน แต่ต้องเป็นการใช้ยาภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น
8. ใช้ยาอะดาพาลีน (Adapalene)
ยาชนิดนี้เป็นกลุ่มเดียวกับกรดวิตามินเอ ซึ่งจะช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิว ทำให้รูขุมขนเล็กลง ต่อมไขมันทำงานลดลง หน้ามันน้อยลง มีจำหน่ายในชื่อ “ดิฟเฟอริน” สามารถใช้ทาก่อนนอน เพื่อให้สิวผดผุดขึ้นมา แล้วค่อยกำจัดออกภายหลัง อย่างไรก็ตามยาในกลุ่มนี้ควรใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์
9. ทำเลเซอร์
สำหรับคนใจร้อน วิธีเร่งด่วนอย่างการทำเลเซอร์ก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ดี เพราะนอกจากจะกำจัดสิวผดได้แล้ว ยังจัดการกับสิวอุดตันได้ทั่วทั้งใบหน้าอีกด้วย ใครรอไม่ไหวก็ลองดูวิธีนี้ได้เลย
ไม่ยากเลยใช่ไหม สำหรับวิธีรักษาสิวผดข้างต้น แต่ที่สำคัญก็คือสาวๆ ต้องรู้จักดูแลตัวเองและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมส่วนตัวด้วย เช่น พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่รับประทานของมันของทอด ไม่ทำอะไรที่เป็นการรบกวนผิวหน้า ทั้งขัดหน้า แกะ เกา เพราะจะยิ่งกระตุ้นสิวที่มีอยู่แล้วให้ลุกลามมากยิ่งขึ้น เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้สิวผดลดลง พร้อมเผยใบหน้าเนียนใสได้อีกครั้งแล้วล่ะ