คุณที่เคยกดสิวเป็นประจำคงสงสัยว่าทำไมบางครั้งไปกดสิวไปแล้ว สิวที่เคยอีกเสบบวมแดง เมื่อผ่านช่วงเวลาแค่ข้ามคืน สิวก็จะแห้งเกลี้ยง ในทางตรงกันข้ามบางทีกดสิวไปแล้ว ยิ่งเป็นการทำให้สิวอักเสบมากขึ้น แถมยังเห่อตามมาอีกด้วย นี่แหละคือสิ่งที่บอกได้ว่าการกดสิวมีทั้งข้อดีและข้อเสีย การกดสิวจะเป็นภัยต่อเราทันทีหากเรากดสิวแบบไม่ถูกต้อง นึกอยากจะกดสิวเม็ดไหนก็กด บางคนกดสิวกันอย่างเมามัน ออกบ้างไม่ออกบ้าง กดกันจนหน้าดำช้ำกันไปเลยก็มี ซึ่งการกดแบบนี้เป็นการกดที่ผิดวิธี และทำให้เกิดแผลเป็น หลุมสิวตามมาแน่นอน วันนี้ก็เลยขอแนะนำวิธีการกดสิวอย่างมืออาชีพให้ใครที่ยังกดสิวแบบผิดๆอยู่ให้กดแบบถูกต้องกันสักที
อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม
-ที่กดสิว (เลือกแบบคล้ายขดลวด)
-น้ำอุ่น + ผ้าขนหนู
-น้ำเกลือ (ที่ใช้ล้างแผลทั่วไป)
-สำลี
-กระดาษทิชชู่
-เข็มอินซูลิน ถ้าหาไม่ได้ก็ใช้เข็มทั่วๆไป
สิวที่เราจะสามารถกดได้เองมีอยู่ 3 ชนิดคือ
1. สิวหัวเปิด (หัวดำ)
2. สิวหัวปิด (อุดตัน-สีขาว)
3. สิวหัวหนอง
ขั้นตอนการกดสิว
1.หลังจากล้างหน้า ประคบหน้าด้วยผ้าอุ่นๆ และเลือกสิวที่จะกดออกได้แล้วก็จัดการนำเอาที่กดสิวไปแช่ในแอลกอฮอร์ก่อนสัก 10 นาทีเพื่อฆ่าเชื้อโรคกันซะก่อน
2.จากนั้นก็เริ่มกดสิวโดยใช้บริเวณหัวที่เป็นเหมือนขดลวดกดเอาหัวสิวออก โดยเล็งให้หัวสิวอยู่ตรงกลางห่วง และกดสิวออกแบบเบามือที่สุด หากเลือกสิวได้ถูกเม็ดมันก็จะออกมาอย่าง่ายดาย แต่หากเลือกผิดแล้วกดไม่ออกก็อย่าพยายามกดให้แรงขึ้น ให้หยุดกดแล้วไปกดสิวหัวอื่นต่อไปแทน เพราะถ้าฝืนกดจะทำให้หน้าช้ำ เสี่ยงเป็นแผลเป็นได้
3.ในกรณีที่เป็นสิวหัวดำ หรือสิวหัวขาวการกดอย่างเดียวอาจทำให้ออกได้ยาก ดังนั้นจึงต้องใช้เข็มที่เตรียมไว้เข้ามาช่วยในจุดนี้ วิธีทำก็คือใช้เข็มสะกิดที่หัวสิวเบาๆให้หัวสิวเปิดออกก่อน แล้วค่อยใช้ที่กดสิวกดออกอย่างเบามือ จะทำให้สิวออกมาได้ง่ายขึ้น
4.หลังจากที่กดสิวเสร็จเป็นที่เรียบร้อยก็ให้ใช้สำลีชุบน้ำเกลือที่เตรียมไว้ ทาลงไปบริเวณที่เรากดสิว (ทาให้ครบทุกเม็ด) เพื่อทำความสะอาดผิวบริเวณนั้นให้สะอาด จะได้ไม่เกิดเป็นสิวซ้ำอีก
5.หากทำการกดสิวที่อักเสบ เป็นหนอง หลังจากกดและเช็ดด้วยน้ำเกลือเสร็จแล้ว ให้ใช้ผงพิเศษตราร่มชูชีพผสมน้ำแล้วแต้มไปที่จุดที่กดไว้ เพื่อทำให้แผลแห้งเร็วขึ้น ก็เป็นอันเสร็จขั้นตอนของการกดสิว