การกดสิว เป็นอีกหนึ่งวิธีรักษาสิวที่หลายนิยมทำ เพราะจะช่วยทำให้สิวหายเร็ว ไม่ต้องรอให้สิวยุบลงเองซึ่งจะต้องใช้เวลานานกว่า โดยการกดสิวนิยมใช้กับสิวอุดตัน แต่การกดสิวก็มีข้อเสียเพราะอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็น รอยดำรอยแดงตามมาได้ในภายหลัง และยังเสี่ยงต่อการอักเสบติดเชื้ออย่างรุนแรง การกดสิวจึงไม่ควรทำเอง แต่ควรทำโดยแพทย์ผู้มีความเชี่ยวชาญ และให้แพทย์เป็นผู้ประเมินว่าสิวที่เกิดขึ้นเหมาะกับการรักษาโดยวิธีกดสิวหรือไม่
สิวเกิดจากอะไร?
สิว เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งการหลั่งของไขมันจากต่อมไขมันมากกว่าปกติ ซึ่งเกิดจากฮอร์โมนแอนโดรเจนหรือฮอร์โมนเพศชายเพิ่มระดับสูงขึ้น รวมทั้งการอุดตันของท่อต่อมไขมันที่ผิว จนเกิดการแตกและนำไปสู่การอักเสบกลายเป็นเม็ดสิว นอกจากนี้การหมักหมมของเชื้อแบคทีเรียในต่อมท่อไขมันและเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหน้า ก็ล้วนแล้วแต่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวได้ด้วยกันทั้งสิ้น ส่วนการทานอาหารที่มีไขมันสูง การแพ้เครื่องสำอาง หรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิว และความเครียด ก็สามารถเป็นต้นเหตุของการเกิดสิวได้ด้วยเช่นกัน
การกดสิว เหมาะกับการรักษาสิวประเภทใดบ้าง?
การรักษาสิวด้วยการกดสิว เหมาะกับการใช้รักษาสิวชนิดที่ไม่อักเสบทั้งสิวหัวดำและสิวหัวขาว โดยการกดสิวต้องเน้นที่เรื่องความสะอาดเป็นสำคัญ เพื่อป้องกันการอักเสบในภายหลัง ที่สำคัญการกดสิวควรทำด้วยแพทย์ที่เชี่ยวชาญ ในคลินิกที่พร้อมด้วยเครื่องไม้เครื่องมือในการรักษา เพื่อช่วยให้แพทย์มองเห็นสิวที่จะรักษาด้วยการกดสิวได้อย่างชัดเจน ซึ่งจะช่วยลดอาการเจ็บขณะทำ และลดการช้ำหรืออักเสบหลังทำได้
คำแนะนำสำหรับผู้ที่เป็นสิว
ไม่ว่าสาวๆ จะเป็นสิวประเภทใด การดูแลผิวในยามเป็นสิวควรต้องให้ความสำคัญมากที่สุด โดยวิธีดูแลรักษาสิวที่ทำได้ง่ายๆ ได้แก่
1.ควรล้างหน้าสบู่ที่มีฤทธิ์อ่อนๆ เช่น cleanser ซึ่งไม่ระคายเคืองต่อผิว ลดความเสี่ยงที่สารเคมีจะตกค้างบนผิวหน้า จนอุดตันที่รูขุมขมซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดสิว ที่สำคัญคือขณะล้างหน้า ไม่ควรถูหน้าแรงเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองจนทำให้สิวเกิดการอักเสบจนเกิดรอยแดง หรือรอยแผลเป็น
2.ไม่ควรใช้เครื่องสำอางและครีมบำรุงผิวที่มีผลต่อการทำงานของผิวหนังและต่อมไขมัน โดยส่วนใหญ่มักเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของน้ำหอม หรือเป็นเครื่องสำอางที่ไม่ได้คุณภาพหรือเป็นของปลอมที่ลักลอบใส่สารสเตอรอยด์ ที่เป็นสารต้องห้ามตามกฎหมาย ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารให้ความชุ่มชื้น ซึ่งลดความเสี่ยงต่อการเกิดอาการระคายเคืองกับผิวหน้า
3.อย่าบีบหรือแกะสิว เพราะจะยิ่งทำให้สิวเกิดการอักเสบ และทำให้เกิดรอยแผลเป็นตามมา
4.ไม่ควรนวดหน้า พอกหน้า ขัดถูหน้าโดยไม่จำเป็น โดยเฉพาะที่ช่วงที่เป็นสิว
5.การทานยาเพื่อรักษาสิวต้องได้รับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ไม่ควรหาซื้อยามาทานเอง เพราะเสี่ยงต่ออันตราย ทั้งทำให้สิวอักเสบมากขึ้น และเสี่ยงต่อการผลเสียกับสุขภาพ
อันตรายของการกดสิวที่ไม่ถูกวิธีหรือใช้เครื่องมือที่ไม่สะอาด จะส่งผลให้เกิดการติดเชื้อ ทำให้สิวยิ่งเกิดการอักเสบมากขึ้น และเกิดรอยแผลเป็น หรือหลุมสิวตามมา นอกจากนี้การกดสิวที่ไม่ถูกวิธีอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียง ในกรณีที่หัวสิวถูกกดออกมาไม่หมด จะทำให้สิวเกิดซ้ำขึ้นได้อีก แถมทวีความรุนแรงยิ่งกว่าเดิม ทำให้การรักษาทำได้ยากยิ่งขึ้น ดังนั้น หากสาวๆ ต้องการกดสิว ไม่ควรกดด้วยตัวเองเด็ดขาด แนะนำให้กดกับทางคลินิกอย่างถูกต้องเหมาะสมจะดีกว่า