สวัสดีค่ะ สาวๆ GangBeauty วันนี้เรามีรีวิว แนะนำเครื่องสำอาง สำหรับคนผิวผสมที่ใช้ดีอยากบอกต่อ ของคุณ SassyGirl มาฝากกันค่ะ สาวๆ ผิวผสมห้ามพลาดเลยนะคะ
วันนี้ เราได้รวบรวมรองพื้น และสกินแคร์ที่เราใช้เป็นประจำทุกวันในช่วง 2-3 เดือนนี้มาแนะนำกัน สำหรับสาวๆ ที่มีผิวผสมเหมือนกับเรา ถ้ากำลังตัดสินใจว่าจะใช้รองพื้นแบบไหน หรือเลือกใช้สกินแคร์ประเภทไหนดี หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ต่อสาวๆ บ้างไม่มากก็น้อยนะคะ
เอาหละ มาเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ
“Nami Make Up Pro White Peach DD Cream”
ชิ้นแรก เป็นดีดีพีชจากแบรนด์นามิค่ะ ตัวนี้เค้าเป็นดีดีครีมที่ได้มาจาก 7-11 ราคาไม่แพง เนื้อครีมเค้าจะช่วยปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนขึ้นในระดับนึง คุมมัน กันเหงื่อได้ดีเลยนะ ช่วยให้เมคอัพอยู่ทนมากขึ้น แต่เรื่องการกันแดดอันนี้ส่วนตัวเรายังทากันแดดก่อนตามปกติเลยขอไม่พูดถึง เนื้อครีมเค้าแตกตัวเป็นน้ำช่วยให้เกลี่ยงง่ายดี แต่เวลาเกลี่ยต้องดูดีๆ ว่าเท่ากันหรือเปล่า แต่เนื่องจากสีเนื้ออครีมเค้าค่อนข้างที่จะขาว คนที่มีผิวเข้มอาจจะทาแล้วลอยได้ เพราะฉะนั้น ลองเทสสีก่อนใช้เน้อ
“BUTTERFLY Miracle Two Way Powder SPF20 PA++”
แป้งผีเสื้อ แป้งผสมรองพื้นที่กลายมาเป็นลูกรักแบบงงๆ แป้งตัวนี้เค้าให้งานผิวแบบ semi-matte คือจะแมตไหมก็ไม่ แต่ก็ไม่ได้ฉ่ำวาวสายเกาอะไรขนาดนั้น ให้งานผิวสวยมาก เราว่าเค้าเหมาะกับสภาพผิวของเราที่มีทั้งส่วนแห้ง และมันรวมๆ อยู่ในหน้า เนื้อแป้งปกปิดกลางๆ สามารถแอดเลเยอร์เพิ่มได้ถ้าต้องการการปกปิดที่มากขึ้น สีแป้งเหมาะกับสีผิวโทนเอเชียอย่างเราๆ แป้งเกาะหน้าดี เค้ามี 3 สีให้เลือก ส่วนตัวเราใช้เบอร์ 2 สำหรับผิวขาวเหลือง ราคาไม่แพง ตัวนี้ได้มาจาก eveandboy ช่วงนี้แต่งหน้าน้อยมาก ถ้าไปทำงานก็จะใช้แค่ตัวดีดีพีชข้างบน แล้วตามด้วยแป้งผีเสื้อตัวนี้ ปัดมาสคาร่า ปัดแก้ม ทาลิปทินท์ตามเรื่องตามราว จบ ออกจากบ้านได้ ไม่ผี
“NYX Professional Makeup Total Control Drop Foundation”
ตัวนี้เป็นรองพื้นเนื้อลิควิดของ NYX ใช้มาเข้าขวดที่สองแล้ว ที่ชอบเพราะเนื้อครีมเกลี่ยง่ายมากกกกก มีสีให้เลือกเยอะ (เราใช้เบอร์ TCDF07 NATURAL) ปกปิดปานกลาง กลบรอยสิว ฝ้า กระได้ประมาณนึง ถ้าอยากได้แบบ Full Coverage ก็สามารถแอดเลเยอร์เพิ่มได้โดยไม่ทำให้หน้าดูแกร็กดูแข็งใดๆ ราคาไม่แพง ไม่อุดตัน ใช้แล้วสิวไม่ขึ้น รักมาก ซื้อใช้ต่อเรื่อยๆ จนกว่าเงินเดือนจะเหลือพอที่จะขยับไปซื้อแบรนด์ที่แพงกว่านี้ อิอิ
“BIODERMA Sensibio H2O”
แต่งหน้าแล้วก็ต้องเช็ดหน้าให้สะอาดเด้อ คลีนซิ่ง BIODERMA สีชมพูขวดนี้คือ The best cleansing of all time ของเรามานานแสนนาน รวมถึงพวกเธออีกหลายๆ คนด้วย ชั้นรู้! เช็ดได้ทั้งเมคอัพกันน้ำไม่กันน้ำ มาสคาร่า ลิป ตา ปาก หลุดออกง่ายมากๆ ใช้แล้วหมดก็วนซื้อใช้อีกอยู่อย่างนั้น แล้วต้องเป็นสูตรสีชมพูด้วยนะ เคยลองใช้สูตรสีฟ้าสำหรับผิวมันก็ไม่รอด ลองใช้ของในบ้านเราที่บอกเป็นสูตรไมเซล่าทั้งหลายหวังจะลด Cost ก็ไม่รอด สุดท้ายกลับไปตายรัง ราคาปกติเราว่าก็ไม่ถูกนะ ดีหน่อยที่พวก drugstore ชอบมีโปรซื้อ 1 แถม 1 ก็เลยซื้อตุนไว้เรื่อยๆ ตัวนี้มีขวดเล็กๆ สำหรับพกพาด้วยนะ ใครมีปัญหาสิวเพราะเช็ดเครื่องสำอางไม่สะอาด ลองดูนะ
“BIOTHERM Pure-Fect Skin Micro-Exfoliating Purifying Toner”
ตัวนี้เป็นโทนเนอร์สำหรับเช็ดหน้าหลังล้างหน้า เหมาะกับผิวมันและผิวผสม วิธีใช้ของเราคือใช้เช็ดย้อนรูขุมขนเบาๆ ให้ทั่วหน้า จากนั้นก็ลงสกินแคร์ตามปกติ ขวดนี้ได้รับอานิสงส์มาจากพี่สาว ลองใช้มา 2 เดือนแล้วรู้สึกว่าผิวสะอาด เป็นสิวน้อยลง สิวอุดตัน สิวหัวดำๆ ตามจมูกและคางลดลงอย่างเห็นได้ชัด ถ้าหมดคงได้เสียเงินซื้อใช้เองแน่ๆ ป.ล. ตัวนี้มีน้ำหอมเป็นส่วนผสมนะ ใครรู้ตัวว่าแพ้น้ำหอมลองเทสก่อนใช้นะคะ
“BIOTHERM LIFE PLANKTON CLEAR ESSENCE”
สุดท้ายเป็นขวัญใจของใครหลายๆ คนอีกเช่นกัน เอสเซนส์ life plankton ตัวดังจาก BIOTHERM ซึ่งตัวนี้เป็นสูตรใหม่ที่นอกเหนือจากเรื่องการปลอบประโลมผิว ลดเลือนริ้วรอย ช่วยให้ผิวเรียบเนียน ชุ่มชื่น ยืดหยุ่นใดๆ จากสูตรเดิมแล้ว เจ้าสูตรใหม่นี้ก็จะเพิ่มเรื่องผิวกระจ่างใสขึ้นมาอีก ตัวนี้ราคาค่อนข้างสูงแต่ใช้ได้นานนะ ขวดนี้ใช้มา 2 เดือนแล้วยังไม่ค่อยยุบเลย ตัวนี้เราชอบเรื่องความชุ่มชื่นมาก ช่วยให้ผิวแข็งแรง แต่อย่าใช้ในปริมาณเยอะนะ เราใช้ประมาณ 2-3 หยด แล้วตบๆ ให้ทั่วหน้า ใช้เยอะอาจจะรู้สึกหนักหน้าเกินไป และอย่าลืมเขย่าก่อนใช้ด้วยจ้า
ป.ล. BA ที่พารากอนใจดี ไม่หวง Tester ด้วย ไปขอกันเยอะๆ
ของดีไม่จำเป็นต้องแพง แต่ถ้าดีแล้วแพงหน่อยก็ถือว่าให้ของขวัญกับตัวเองละกันเนอะ อิอิ คราวหน้าเราจะมีอะไรมาแนะนำกันอีก ฝากติดตามด้วยนะคะ
วันนี้ไปแล้ว บ๊ายบาย