วิธีแก้ผมมันเร็ว ทำไงดี บางครั้งเพิ่งจะสระผมไปได้แค่วันเดียว ผ่านมาไม่ถึงวันผมก็มันเสียแล้ว จะให้สระผมบ่อยๆ ก็เสียเวลามากพอสมควร เพราะกว่าผมจะแห้งคงต้องเป่าอยู่นานเลยทีเดียว แล้วพอจะมีทางไหนช่วยยืดเวลาให้ผมมันช้าลงได้บ้างนะ
การสระผมในทุกๆ วัน ไม่เพียงจะช่วยทำความสะอาดเส้นผมไม่ให้มีสิ่งสกปรกหรือรังแคได้แล้ว ยังเป็นการช่วยลดความมันบนหนังศีรษะได้อีกด้วย เพราะร่างกายของคนเรามีการผลิตน้ำมันเคลือบผิว ตามกลไกธรรมชาติ ที่เห็นได้อย่างชัดเจนเลยคือผิวหน้า ถ้าหน้ามันเมื่อไหร่เป็นต้องส่องแสงแวววาวจนสาวๆ หนักใจ ไม่เว้นแต่หนังศีรษะของเรา เนื่องจากผิวบริเวณนั้นมีต่อมไขมันอยู่ เพื่อปล่อยน้ำมันออกมาเคลือบหนังศีรษะไม่ให้แห้งจนเกินไป แต่ก็ใช่ว่าน้ำมันตรงนั้นจะมีประโยชน์เพียงอย่างเดียว เพราะหากมีน้ำมันมากเกินไป อาจก่อให้เกิดปัญหาผมมันจนผมดูลีบแบนได้ ถ้าคนอื่นมองมาเห็นต้องรู้แน่ว่าเราไม่ได้สระผมมาหลายวันแล้ว
อย่างไรก็ตาม การที่มีผมมันไม่ได้หมายความว่าเราไม่ได้สระผมมานาน จึงทำให้ผมดูมันย่องอย่างนั้น ทว่าบางคนช่างโชคร้าย ต่อมไขมันทำงานดีเกินไปนิด ผ่านไปเพียงแค่ 1 วันผมก็มันจนเหมือนใส่เจลจัดแต่งทรงผม ถ้าหากให้สระบ่อยๆ หรือสระผมทุกวันคงไม่ดีต่อหนังศีรษะและเส้นผมเป็นแน่ วันนี้เราเลยจะมาช่วยสาวๆ หาวิธีแก้ผมมันเร็ว ด้วย 7 เคล็ดลับสุดเริดที่รับรองว่าลืมปัญหาผมมันเยิ้มไปได้เลย
1. ห้ามสระผมทุกวัน
สาวๆ ที่ติดการสระผมทุกวันคงจะทำใจยากสักหน่อย หากต้องเว้นว่างจากการสระผมไปถึง 2 วัน เพราะคิดว่าเส้นผมคงจะสกปรกและหัวมันมากแน่นอนหากไม่ได้สระผมทุกวัน ซึ่งนั่นออกจะเป็นความเชื่อที่ผิดไปสักหน่อย ด้วยหนังศีรษะของเราไม่ได้มันง่ายขนาดนั้น กลับกัน การสระผมทุกวันต่างหากที่เป็นตัวเร่งให้ผมมันเยิ้มเข้าไปใหญ่ เนื่องจากตามกลไกธรรมชาติแล้ว หากศีรษะของเราโดนสารเคมีอย่างยาสระผมหรือโดนน้ำสะอาดชำระล้างความมันออกไป ต่อมไขมันก็จะเร่งผลิตน้ำมันออกมาทดแทนความแห้ง บางครั้งก็ผลิตมามากเกินไปด้วยซ้ำ เพราะร่างกายคิดว่าผิวตรงส่วนนั้นแห้งมากนั่นเอง ทางที่ดีควรเลิกนิสัยสระผมทุกวัน แล้วหันมาสระผม 2-3 วันครั้งจะดีกว่า
2. ปล่อยให้ผมแห้งเองตามธรรมชาติ
ใครที่มีผมยาวคงจะหวั่นใจสักหน่อยกับเคล็ดลับนี้ เพราะถ้าปล่อยให้ผมแห้งเอง มีอันต้องกินเวลาไปเป็นชั่วโมง ยิ่งสาวๆ คนไหนที่มีผมหนาแถมยาวด้วย คงต้องนั่งรอถึง 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว แต่จะให้ทำอย่างไรได้ ในเมื่อลมร้อนที่ใช้เป่าผม เป็นหนึ่งในตัวเร่งสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาผมมันได้นั่นเอง ยิ่งลมร้อนมากเท่าไหร่ ต่อมไขมันก็จะยิ่งผลิตน้ำมันมากเท่านั้น ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อเส้นผมและหนังศีรษะของเราเลย ควรอดทนรอสักพัก ให้ผมได้แห้งเองจะดีกว่า แล้วถ้าทนไม่ไหวจริงๆ ก็รอให้ผมแห้งหมาดๆ สักหน่อย จากนั้นก็ใช้ลมเย็นเป่าดู แค่นี้ก็หมดปัญหาผมมันเร็วแล้ว
3. อย่าใช้มือจับผมบ่อยเกินไป
เพราะความมันและสิ่งสกปรกบนมือของเราเป็นตัวการสร้างน้ำมันบนผมได้ดีเลยทีเดียว ยิ่งเราไปแตะต้องผมมากเท่าไหร่ น้ำมันบนหนังศีรษะก็จะถูกกระตุ้นและขับเป็นไขมันมาเคลือบหนังหัวได้มากเท่านั้น เช่นเดียวกันกับการใช้หวี อย่างที่เคยได้ยินกันมาว่า ยิ่งหวีผมบ่อยมากเท่าไหร่ ผมก็จะยิ่งลื่นมากขึ้นเท่านั้น อันที่จริงการหวีผมไม่ได้ช่วยทำให้ผมลื่นขึ้น แต่เป็นเพราะการหวีผมจะไปกระตุ้นต่อมไขมันต่างหาก ทางที่ดีควรหวีผมแค่วันละ 2-3 ครั้งก็เพียงพอที่จะไม่ทำให้ผมยุ่งพันกันได้แล้ว อีกทั้งควรหลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสเส้นผมบ่อยๆ จะดีกว่า
4. ล้างผมด้วยน้ำเย็นเท่านั้น
คงมีสาวๆ ขี้หนาวหลายคนที่ติดการอาบน้ำอุ่นเป็นชีวิตจิตใจ หากวันไหนไม่มีน้ำอุ่นก็ถึงขั้นจะไม่อาบน้ำเลยทีเดียว แม้แต่การสระผมก็ยังต้องสระด้วยน้ำอุ่นเท่านั้น ซึ่งนั่นเองเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมมันเร็วมากขึ้น เนื่องจากเมื่อหนังศีรษะโดนความร้อน น้ำมันบนผมก็จะถูกล้างออกไปด้วย ทำให้หนังศีรษะแห้งผากเป็นอย่างมาก แล้วไม่นานต่อมไขมันก็จะรีบเร่งผลิตน้ำมันออกมา จนมากกว่าปกติ เมื่อผ่านไปได้แค่ไม่ถึงวัน ผมก็มันจนลีบไปทั้งหัวนั่นเอง ในเมื่อติดน้ำอุ่นจริงๆ ก็สามารถใช้น้ำอุ่นสระผมได้ แต่ขั้นตอนการล้างยาสระผมหรือครีมนวดควรใช้เป็นน้ำเย็นจะดีกว่า เพื่อน้ำเย็นนั้นจะได้ไปปิดรูขุมขนบนหนังศีรษะและปิดเกล็ดผม ทำให้เกล็ดผมแน่นและเรียงตัวสวยได้แล้วก็ไม่ทำให้ผมมันเร็วด้วย
5. บำรุงด้วยครีมนวดก่อนใช้ยาสระผม
เรียกได้ว่าเป็นวิธีการที่ออกจะกลับหน้ากลับหลังไปสักหน่อย แต่ก็ช่วยแก้ปัญหาผมมันเร็วได้ดีนักแหละ เพราะสาวๆ ผมมันหลายคนรู้ดีว่าครีมนวดก่อให้เกิดความมันบนหนังศีรษะได้ ยิ่งลงใกล้โคนผมมากเท่าไหร่ก็ยิ่งมันง่ายมากขึ้นเท่านั้น แต่ถ้าให้เลิกใช้ครีมนวดไปเลยเห็นทีต้องมีปัญหาผมแห้งแตกปลายตามมาให้แก้ไขแน่นอน ดังนั้นแล้วเพื่อตัดปัญหาทั้งหัวมัน และผมแตกปลายทิ้งไปก็เปลี่ยนจากลงครีมนวดในขั้นตอนสุดท้ายมาเป็นขั้นตอนแรกแทน วิธีการคือลงครีมนวดลงบนเส้นผมที่เปียก เน้นเฉพาะช่วงกลางจรดปลายผม ห้ามลงบริเวณโคนผมเด็ดขาด จากนั้นจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด แล้วตามด้วยขั้นตอนการสระผมตามปกติ เพียงเท่านี้ก็ลืมปัญหาหนังศีรษะมันกับปลายผมแห้งแตกไปได้เลย
6. เปลี่ยนปลอกหมอนทุกสัปดาห์
ปลอกหมอนของเราก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ผมมันเร็วได้เหมือนกัน เนื่องจากตัวปลอกหมอนเองได้รับการสะสมความมันรวมไปถึงเหงื่อในแต่ละคืน เมื่อเรานอนบนปลอกหมอนที่มีความมันอยู่แล้ว ผมของเราก็จะยิ่งมันได้เร็วขึ้น แม้แต่ใบหน้าของเราก็พลอยได้รับผลกระทบจนก่อให้เกิดสิวตามไปด้วย ใครที่ไม่อยากเจอปัญหาผมมันกวนใจ ก็ควรเปลี่ยนปลอกหมอนทุกสัปดาห์จะดีกว่า
7. ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของซิลิโคนหรือน้ำมัน
ใครที่ผิวบอบบางแพ้ง่าย คงจะเลี่ยงผลิตภัณฑ์บำรุงและจัดแต่งทรงผมที่มีส่วนผสมของซิลิโคนกันอยู่แล้ว เนื่องจากตัวซิลิโคนจะไปอุดตันรูขุมขนจนก่อให้เกิดสิวได้ง่าย หรือบางคนก็แพ้จนเกิดผื่นคันได้ด้วย ส่วนสาว ๆ ผมมันทั้งหลายก็ต้องหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของซิลิโคนกันบ้างแล้ว เพราะถึงแม้ซิลิโคนจะช่วยให้ผมลื่นและมีน้ำหนัก แต่ว่ามันก็เป็นหนึ่งในตัวการทำให้ผมมันได้ง่ายด้วยนั่นเอง ซึ่งรวมไปถึงยาสระผมหรือครีมนวดและผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมที่มีส่วนผสมของน้ำมันก็ควรเลี่ยงโดยเด็ดขาด เพราะผลิตภัณฑ์เหล่านี้ก็ทำให้ผมมันเร็วขึ้นมากเช่นกัน
และทั้งหมดนี้ก็คือ 7 เคล็ดลับที่ทำให้ผมไม่มันเร็ว แถมยังเป็นการดูแลเส้นผมได้อย่างถูกวิธีอีกด้วย สาวๆ หลายคนคงเคยชินกับพฤติกรรมบางอย่าง ทั้งสระผมทุกวันหรือหวีผมวันละหลายๆ รอบ คราวนี้ก็ต้องปรับตัวและทำตามเคล็ดลับเหล่านี้แทนแล้ว เพื่อที่จะได้มีเส้นผมที่เงางามแต่ไม่มันย่องจนเกินไปนั่นเอง