ขึ้นชื่อว่า ไขมันส่วนเกิน คงเป็นอะไรที่ทำให้ใครหลายๆคนเกิดความกังวลใจ และ ต้องการที่จะกำจัดออกไปจากร่างกายให้เร็วที่สุด แต่ก็มีหลายคนที่อาจจะยังสับสนอยู่ว่า การมีไขมันบริเวณหน้าเยอะ มีแก้ม มีเหนียง มีคาง2 ชั้น ควรฉีดอะไรดี แล้วถ้าฉีดสลายไขมันด้วยเมโสแฟต จะทำให้ใบหน้าเรียวเล็กลงได้จริงหรือไม่ เรามีรายละเอียดแบบเจาะลึกที่ไม่ควรพลาดมาให้ติดตาม
เมโสแฟต ช่วยให้หน้าเรียวได้จริง? ตัวยาออกฤทธิ์อย่างไร?
เมโสแฟตมีจุดเด่น คือ มีส่วนประกอบของสารที่มีคุณสมบัติเร่งการเผาผลาญไขมัน ทำให้ไขมันส่วนเกินถูกขับออกไปจากร่สงการได้ผ่านระบบของเสียได้ดีขึ้น ช่วยกระชับสัดส่วน และ ช่วยลดการเกิดเซลล์ไขมันใหม่ โดยการนำตัวยาฉีดเข้าภายในชั้นผิวหนัง โดยเมื่อฉีดเข้าไปแล้ว จะช่วยสลายไขมันอย่างเป็นธรรมชาติส่วนใหญ่ นิยมฉีดบริเวณใบหน้า ตรงแก้ม เหนียง มีคุณสมบัติช่วยสลายไขมันโดยตรง การออกฤทธิ์ของเมโสแฟตจะมีตัวยาArtichoke extract ช่วยลดการสร้างกรดไขมัน L-carnitine ช่วยเร่งการเผาผลาญไขมัน ดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงานมากขึ้น Tyrosine ช่วยเร่งระบบเผาผลาญ หลังจากฉีดเมโสแฟต จะเห็นผลประมาณ 2-4 สัปดาห์ สามารถช่วยสลายไขมันบริเวณใบหน้า ลดแก้ม ลดเหนียงได้ประมาณ 10-15% เหมาะกับคนที่ไขมันหน้าส่วนเกินน้อยต้องการเห็นผลการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นธรรมชาติ
จุดไหนบ้างที่นิยมฉีดเมโสแฟต
- บริเวณเหนียง ใต้คาง เพื่อลดคางสองชั้น
- บริเวณแก้ม เพื่อปรับให้หน้าเรียวขึ้น
- บริเวณต้นแขน ต้นขา เพื่อยกกระชับและ เซลลูไลท์ที่สะสมอยู่บริเวณต้นแขนต้นขา
- บริเวณหน้าท้อง ช่วยให้หน้าท้องให้แบนราบ ลดพุง
หัตถการที่ทำให้หน้าเรียวมีอะไรบ้าง? พร้อมข้อดีและ ข้อเสีย
1. การฉีดเมโสแฟต
เมโสแฟต คือตัวยาลดไขมันส่วนเกินเพื่อกระชับสัดส่วน ประกอบด้วยสารที่มีคุณสมบัติเร่งการเผาผลาญไขมัน รวมถึงช่วยลดกระบวนการเกิดเซลล์ไขมันใหม่
ข้อดีของเมโสแฟต
- ช่วยปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน ใบหน้าดูเรียวขึ้น
- เห็นผลไว ลดไขมันได้เฉพาะจุดได้ดี
- หน้าเรียวขึ้นได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และ ไม่ต้องเสี่ยงกับรอยแผลเป็น
- ช่วยสลายไขมันส่วนเกิน ในจุดที่ไม่สามารถทำได้ด้วยการออกกำลังกาย
- ลดปัญหาผิวเปลือกส้ม
ข้อเสียของเมโสแฟต
- ไม่แนะนำให้ฉีดกับผู้ที่ตั้งครรภ์ ควรรอคลอดก่อน
- มีตัวยาปลอดแพร่ระบาดในอินเตอร์เน็ตเป็นจำนวนมาก
- การฉีดเมโสแฟตแพทย์ต้องเป็นผู้ประเมินตามความเหมาะสมของคนไข้แต่ละคนเท่านั้น
- ไม่สามารถลดสัดส่วนที่เป็นกล้ามเนื่อได้
2. ฉีดโบท็อก
โบท็อก คือ นวัตกรรมที่นิยมใช้สำหรับลดริ้วรอย ยกกระชับหน้า และลำคอ รวมถึงลดขนาดของกล้ามเนื้อบริเวณต่างๆ เช่น กราม และ น่อง
ข้อดีของโบท็อก
- สามารถแก้ปัญหาริ้วรอยได้
- ทำให้รูปหน้าที่ใหญ่จากกล้ามเนื้อเรียวเล็กลง
- เห็นผลเร็วภายใน 7-14 วัน
- เป็นตัวยาที่มีความปลอดภัยสูง (หากมีใบรับรองจากองค์การอาหารและยา)
- ช่วยทำให้ใบหน้าเต่งตึงยกกระชับ เห็นกรอบหน้าชัดเจนมากขึ้น
ข้อเสียของโบท็อก
- ไม่สามารถฉีดได้กับผู้ที่มีอาการแพ้สาร Botulinum
- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรอยู่ไม่สามารถรับบริการได้
- ผู้ที่เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ไม่สามารถทำได้
- ไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคเลือดออกแล้วหยุดยาก
3. การร้อยไหม
การร้อยไหม คือเทคนิคที่นำมาใช้ช่วยยกกระชับ ฟื้นฟูสภาพผิว ลดเลือนริ้วรอยและปรับรูปหน้าให้ดูเรียวมากขึ้น ด้วยการใช้ไหมละลายสอดเข้าไปใต้ผิว เห็นผลทันทีหลังทำ ร้อยปุ๊ปเรียวปั๊บ เหมาะกับคนที่มีปัญหาแก้มห้อยอย่างเห็นได้ชัด
ข้อดีของการร้อยไหม
- จะเห็นว่าหน้าดูยกขึ้นทันทีหลังทำ
- ช่วยแก้ปัญหาผิวหน้าที่หย่อนคล้อยมากๆได้ดี
- ปรับรูปหน้าให้ดูเรียว มีมิติ เป็นรูปทรงวีเชฟ
- ช่วยกระตุ้นให้เกิดการหดตัวของคอลลาเจนใต้ผิว ส่งผลให้ผิวหน้าดูตึง แน่น อิ่มฟู
ข้อจำกัดของการร้อยไหม
- หลังทำห้ามอ้าปากกว้าง
- ห้านวดหน้า แต่งหน้า 4 ชม.
- ห้ามออกกำลังกาย
- ดื่มแอลกอฮอล์
- แกะเกา บริเวณแผล
เมโสแฟตลดไขมันได้จริงไหม? ต้องเว้นระยะห่างอย่างไร
การฉีดเมโสแฟต ไขมันจะเริ่มสลายตัว และลดลงประมาณ 10 -20% ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ โดยไขมันจะลดลงมากน้อยแค่ไหน ผลลัพธ์ขึ้นกับปริมาณไขมันของแต่ละบุคคล ซึ่งจะเห็นผลที่ชัดเจนในช่วงประมาณ 1-3 สัปดาห์หลังฉีด แนะนำให้ฉีดต่อเนื่องเดือนละ 1 ครั้ง ติดต่อกันอย่างน้อย 3 ครั้งขึ้นไปเพื่อผลลัพธ์ที่ดีสุด
เมโสแฟตกับโบท็อกเลือกทำอะไรดี?
เมโสแฟตกับโบท็อกถือเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมาก แต่ควรเลือกให้เหมาะสมกับปัญหา เพื่อการเห็นผลที่ชัดเจนไม่เสียเงินไปแบบฟรีๆ
การฉีดเมโสแฟต : เหมะสำหรับผู้ที่มีแก้มเยอะ เหนียงเยอะ ไขมันบริเวณหน้าเยอะ จะเป็นการฉีดเมโสแฟต เพื่อสลายไขมัน ใบหน้า เพื่อให้ใบหน้าเรียวเล็กลงได้
การฉีดโบท็อก : เหมาะสำหรับการทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ชั่วคราว นิยมฉีดกราม และส่วนของริ้วรอย บริเวณหน้าผาก หรือหางตา แนะนำให้ปรึกษาคุณหมอเพื่อให้ได้รับกมรฉีดตัวยาที่เหมาะสม
เมโสแฟตกับโบท็อกต่างกันอย่างไร ?สามารถฉีดเมโสแฟตพร้อมกับโบท็อกได้มั้ย?
การฉีดเมโสแฟต เป็นการช่วยลดการสร้างกรดไขมัน ช่วยเร่งการเผาผลาญไขมัน ดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงานมากขึ้น ช่วยเร่งระบบเผาผลาญ เหมาะกับผู้ที่มีไขมันส่วนเกินบนร่างกายเล็กน้อย (หากคนที่มีไขมันเยอะแนะนำให้ดูดไขมัน) ด้วยการสลายไขมันอกจากร่ายกายได้อย่างเป็นธรรมชาติ ส่วน การฉีดโบท็อก โบท็อกเป็นการช่วยกล้ามเนื้อคล้ายตัว ช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้าได้แค่ชั่วคราวเท่านั้น ผลลัพธ์ไม่ได้อยู่ถาวร ต้องกลับมาฉีดซ้ำเพื่อคงประสิทธิภาพเอาไว้
ทั้งการฉีดเมโสแฟต และการฉีดโบท็อกซ์เป็นหัตถการที่มีการออกฤทธิ์ต่างกันก็จริงแต่สามารถฉีดพร้อมกันได้ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้น
ผลลัพธ์ของเมโสแฟตอยู่ได้นานหรือไม่ ไขมันจะกลับมาอีกหรือไม่?
เมโสแฟตผลลัพธ์ได้นาน 2-3 เดือน โดยหลังการฉีดแนะนำให้หลีกเลี่ยงการรับประทานของทอด ของมัน และออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยรักษาผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานขึ้น หลังการฉีดเมโสแฟต ไขมันที่โดนสลายด้วยตัวยาจะถูกร่างกายกำจัดออกไปอย่างถาวร ดังนั้นเมื่อตัวยาหมดฤทธิ์ ไขมันเก่าจะไม่กลับมา แต่การฉีดเมโสแฟตไม่ใช่วิธีป้องกันการสะสมไขมันใหม่ ดังนั้น ต้องขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง การเลือกรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย ของแต่ละบุคคลด้วย
ฉีดเมโสแฟตเจ็บมั้ย?
การฉีดเมโสแฟต จะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยขณะฉีดยาหรือเดินยา โดยจะมีการใช้น้ำแข็งประคบเพื่อลดอาการเจ็บ ส่วนใครที่กลัวเจ็บมากๆ สามารถขอแปะยาชาก่อนทำได้
เคสแบบไหนที่ไม่แนะนำให้ฉีดเมโสแฟตเพราะจะไม่ได้ผล
ใบหน้าที่ฉีดเมโสแฟตแล้วไม่เห็นผลคือ ใบหน้าที่มีกล้ามเนื้อชัดกรามหนาจากกล้ามเนื้อ (แนะนำให้ฉีดโบท็อก) และ ใบหน้าที่มีกระดูกโครงหน้ากางออก ใบหน้าที่มีกระดูกชัด (แนะนำให้ผ่าตัดศัลยกรรมปรับโครงหน้า)
ลักษณะใบหน้าที่ฉีดเมโสแฟตแล้วได้ผลลัพธ์ชัดเจนมากที่สุดคือใบหน้าที่มีลักษณะใหญ่ กรอบหน้าไม่ชัด แก้มห้อย มีเหนียง คาง 2 ชั้น ที่มีสาเหตุเกิดมาจากไขมันที่สะสมอยู่บนบริเวณใบหน้า
ซื้อเมโสแฟตมาฉีดเองได้มั้ย?
การฉีดเมโสแฟต โดยการเลือกซื้อมาเองโดยผ่านอินเตอร์เน็ต สิ่งแรกอาจได้รับเมโสแฟตปลอม (ซึ่งคลีนิคที่ได้มาตรฐานจะไม่รับฉีดให้กับคนไข้) ถ้ามีการนำมาฉีดกับหมอเถื่อน(หมอกระเป๋า) อาจทำให้เกิดอันตราย เช่น เสี่ยงกับการติดเชื้อ เป็นหนองอักเสบ เกิดรอยแผลเป็นไม่มีวันหาย ใบหน้าอาจเกิดการจับตัวเป็นก้อนๆ ใบหน้าผิดรูป และ อาจทำให้บนใบหน้าเสียโฉมได้
ฉีดเมโสแฟตที่ไหนดี ควรพิจารณาจากอะไร?
- เลือกคลินิกที่มีชื่อเสียงมีความน่าเชื่อถือ โดยต้องมีข้อมูลของคลินิก ข้อมูลแพทย์ แจ้งไว้อย่างชัดเจน ในเว็บไซต์และช่องทางอื่นๆของคลินิก
- คลินิกต้องใช้เมโสแฟตแท้ มีการผสมตัวยาต่อหน้าคนไข้ทุกครั้ง
- คลินิกต้องมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมีความชำนาญในการฉีดเมโสแฟต โดยสามารถดูได้จากรีวิวของ ผู้ที่ใช้บริการจริง
- คลินิกต้องเปิดอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ต้องมีใบอนุญาตประกอบกิจการ
- แพทย์ผู้ทำหัตถการ จะต้องมีใบประกอบวิชาชีพที่สามารถตรวจสอบได้จากแพทยสภา
- คลินิกมีการเปิดเผยข้อมูล รายชื่อ รูปแพทย์ ไว้ในจุดที่สามารถสังเกตได้ง่าย
- คลินิกมีหลายสาขาเพื่อให้สะดวก ในการใช้บริการอย่างต่อเนื่อง
เพื่อให้ผลลัพธ์ยาวนานขึ้นต้องดูแลตัวเองอย่างไร?
- งดดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ ประมาณ 1 เดือน
- ไม่ควรกดนวดบริเวณที่ฉีดเมโสแฟต
- ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร และควบคุมน้ำหนัก หลีกเลี่ยงของมัน ของทอด แป้ง ของเค็มเพื่อไม่ให้เกิดการเพิ่มไขมัน และลดการสะสมไขมันใหม่
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างกล้ามเนื้อ รีดไขมันออกจากร่างกายได้มากขึ้น และป้องกันการเกิดไขมันใหม่
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ วันละ2-3 ลิตรขึ้นไป
รีวิวฉีดเมโสแฟต
สรุปเมโสแฟต ดีมั้ย? ควรทำหรือไม่?
การฉีดเมโสแฟต สามารถช่วยปรับรูปหน้า และ ลดสัดส่วน ในจุดที่มีไขมันส่วนเกินสะสมอยู่ ทำให้ไขมันแตกตัวกลายเป็นของเหลว แล้วถูกขับไปด้วยวิธีธรรมชาติของร่างกาย ถือเป็นวิธีที่ได้ผลชัดเจนและปลอดภัย ทำให้การฉีดเมโสแฟตได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย แต่ก่อนการฉีดอย่าลืมคำนึงถึงความปลอดภัย อย่าเห็นแก่ของราคาถูกเพราะอาจทำให้เจอกับประสบการณ์ที่มีราคาแพงได้
แหล่งข้อมูลจาก https://www.gangnamconsult.com/meso-fat/