เกิดเป็นผู้หญิงนี่ต้องเสียค่าดูแลความสวยความงามกันเยอะพอสมควรเลยใช่มั้ย ซึ่งจริงๆแล้วนอกจากครีมบำรุงต่างๆ ‘โทนเนอร์’ ก็คือสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ต้องมี เพราะตัวนี้จะช่วยในเรื่องของการปรับสภาพผิวให้นุ่มชุ่มชื้น เพื่อความสดชื่น แถมบางยี่ห้อยังมีส่วนทำให้ผิวกระจ่างใสด้วยนะคะ วันนี้เรามัดรวมโทนเนอร์ยอดฮิตที่บล็อกเกอร์หลายๆคนเลือกใช้ มาบอกต่อกันถึง 10 ยี่ห้อจุกๆ ไปดูกัน!
1. SHISEIDO Treatment Softener Enriched Refill
ราคา 1,850 บาท
โทนเนอร์ Shiseido เป็นโทนเนอร์ที่ช่วยต่อต้านความแห้งกร้านของผิว และต่อต้านสารออกซิแดนท์ที่ทำให้ผิวเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น ซึ่งตัวนี้จะทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น เปล่งปลั่ง ตลอด 24 ชั่วโมง เพราะมีส่วนผสมของน้ำแร่จาก Kirishima, สารสกัดจาก Hamamelis, สารสกัดช่วยให้ผิวกระจ่างใส Lempuyang, ต้นไม้ Yomogi, พฤกษศาสตร์ญี่ปุ่น (mugwort) และอื่นๆ อีกเพียบ ค่อนข้างเหมาะกับคนผิวทั่วไปและผิวแห้งค่ะ
2. FRESH Rose Deep Hydration Facial Toner
ราคา 1,760 บาท
โทนเนอร์กุหลาบตัวดัง สูตรปราศจากแอลกอฮอล์ที่ใช้ได้ทุกสภาพผิว! ตัวนี้จะช่วยในเรื่องของการปรับสภาพผิว เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหน้า พร้อมบำรุงให้ผิวนุ่มเนียนกระชับรูขุมขนก่อนบำรุงครีมด้วย บอกเลยว่าเป็นโทนเนอร์ที่มีกลิ่นหอมของกุหลาบอย่างอ่อนโยน ใช้แล้วรู้สึกได้เลยว่าผิวหน้าสะอาดเกลี้ยงมากๆ อ่อนโยนต่อผิวอย่างธรรมชาติสุดๆ แต่ด้วยความที่มีกุหลาบเยอะ ช่วงใกล้หมดขวดอาจจะเทออกยากนิดนึงค่ะ
3. CAUDALIE Vinopure Clear Skin Purifying Toner
ราคา 1,040 บาท
โทนเนอร์ Caudalie ช่วยปรับสภาพสีผิวให้ดูกระจ่างสดใสทุกครั้งที่ใช้ รวมถึงขจัดสิ่งสกปรกออกจากรูขุมขนได้อย่างดีเยี่ยม มีสารสกัดจากเมล็ดองุ่นและออร์แกนิค เอสเซนเชียล ออยล์ ตัวนี้แหละที่ทำให้ผิวชุ่มชื้นมากๆ เป็นโทนเนอร์ที่เช็ดแล้วผ่อนคลายผิวสุดๆ และยังช่วยลดความมันส่วนเกินบนใบหน้าได้อีกด้วย ค่อนข้างเหมาะกับคนผิวมัน เป็นสิว และผิวผสมค่ะ
4. PIXI Glow Tonic
ราคา 1,160 บาท
ต่อกันด้วยโทนเนอร์ยอดฮิตที่ตอนนี้ยอดขายเยอะสุดๆ ตัวนี้จะเป็นโทนเนอร์ที่ผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออกอย่างอ่อนโยน เป็นการเผยผิวขาวกระจ่างใสเรียบเนียนอย่างธรรมชาติ ค่อนข้างเหมาะกับคนทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวบอบบางแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้ เพราะเป็นสูตรอ่อนโยน มีแต่ส่วนผสมจากธรรมชาติเช่น ว่านหางจระเข้ โสม เรียกได้ว่าคุ้มราคามากๆ
5. MARIO BADESCU Glycolic Acid Toner
ราคา 745 บาท
สำหรับโทนเนอร์สูตรอ่อนโยนอีกตัวที่แนะนำเลยก็คือของ Mario สูตรนี้ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เลย นอกจากทำความสะอาดผิวให้กระจ่างสดใสขึ้นแล้ว ยังมีส่วนผสมหลักอย่าง Glycolic Acid และ Alpha Hydroxy Acid ซึ่งทำจะฟื้นฟูเซลล์ผิวอย่างอ่อนโญน ทั้งสารสกัดจากว่านหางจระเข้ที่ปลอบประโลมผิวได้เป็นอย่างดี และขวดนี้ยังช่วยลดรอยแผลเป็นจากสิว ลดเลือนริ้วรอยให้จางลงด้วย!
6. ESTEE LAUDER Nutritious Micro-Algae Pore Minimizing Shake Tonic (New)
ราคา 1,100 บาท
โทนเนอร์ใช้ดีจากแบรนด์ชั้นนำอย่าง Estee Lauder เป็นสูตร Clay-in-Tonic ที่นำประโยชน์จากโทนิกและโคลนผสมผสานอย่างลงตัว ใช้แล้วผิวดูชุ่มชื้นกระจ่างใสขึ้นทันที พร้อมดูดซับความมันออกจากผิว กระชับรูขุมขนให้เล็กลงอย่างเห็นได้ชัด
7. DR. JART+ V7 Toner
ราคา 1,250 บาท
โทนเนอร์ที่อุดมไปด้วยวิตามินที่ช่วยปรับสีผิวให้กระจ่างสดใสด้วยสูตร Vitamin Keratin Care Solution ตัวนี้ค่อนข้างมีกลิ่นหอมอย่างอ่อนโยน รวมถึงใช้แล้วผิวดูไม่แห้งตึง พร้อมสำหรับการบำรุงในขั้นตอนถัดไป นอกจากนั้นยังมีส่วนผสมของ AHA, PHA และ Natural BHA ที่ช่วยให้การหมุนเวียนของผิว หรือการผลัดเซลล์ผิวเก่าดีขึ้นกว่าเดิม
8. TRILOGY Hydra-Tone Softening Lotion
ราคา 1,280 บาท
ตัวนี้เป็นโทนเนอร์ที่สามารถล้างและทำความสะอาดผิวหน้าจากการแต่งหน้าได้ด้วย สามารถใช้ได้โดยระคายเคืองสักนิด บอกเลยว่าผิวนุ่มชุ่มชื้นอย่างเป็นธรรมชาติมากๆ เรียบเนียน อ่อนโยน ปรับสีผิวให้กระจ่างสดใส และมีส่วนผสมของกรดไฮยาลูโรนิกที่จะมาเติมเต็มริ้วรอยก่อนวัยให้ตื้นขึ้น พร้อมกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างเต็มที่
9. DIOR Diorsnow – Essence of Light Brightening Light-Activating Micro-Infused Lotion
ราคา 2,400 บาท
โทนเนอร์ระดับดิออร์ก็มา! ขวดนี้มีความหรูหราสุดๆ เป็นโทนเนอร์ที่ปรับผิวให้เรียบเนียน สม่ำเสมอ สะอาด กระจ่างใส ผิวเนียนนุ่ม รวมถึงขจัดสิ่งตกค้างบนผิวหน้าได้เป็นอย่างดี ช่วยเติมน้ำให้กับผิวทุครั้งที่ใช้ เผยผิวใสเปล่งประกายอย่างเห็นได้ชัด นอกากนั้นยังช่วยลดเลือนจุดด่างดำบนผิวด้วยค่ะ
10. LANC?ME Tonique Confort Toner
ราคา 1,950 บาท
ปิดท้ายด้วยโทนเนอร์ลังโคมขวดชมพูยอดฮิต! สูตรนี้ช่วยปรับสภาพผิวก่อนบำรุงครีมในขั้นตอนถัดไป มีสารสกัดจากธรรมชาติอย่างดอกยี่หร่าและแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ มีส่วนทำให้ผิวชุ่มชื้น กระจ่างสดใส กระชับรูขุมขน และยังมีกลิ่นหอมอ่อนโยนสุดๆ
สาวๆที่กำลังลังเลว่าจะเลือกใช้ตัวไหนดีน๊า.. ลองดูความสภาพผิวหน้าของเราและเลือกใช้จะดีกว่าค่ะ เพราะถ้าใช้สูตรที่ไม่เหมาะกับผิว ยังไงก็ไม่เห็นผลนะคะ!