การรักษาสิวด้วยตนเองเป็นเรื่องที่ทำได้ ถ้าเรารักษาและดูแลอยากถูกวิธี แถมไม่ต้องเสียเงินมากมายเหมือนกับเวลาไปตามคลินิคต่างๆ แต่อย่างไรก็ตามการพบแพทย์ผู้เชี่ยวชายเพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับปัญหาบนใบหน้าของเราก็เป็นทางเลือกที่ถูกต้องค่ะ วันนี้ Gang Beauty มีหนึ่งรีวิวเกี่ยวกับเคล็ดลับการรักษาสิวด้วยตนเองให้ได้ผล ไปดูกันเลยค่ะ
(รีวิวต่อไปนี้เป็นรีวิวจาก สมาชิกหมายเลข 3068892 สมาชิกเว็บไซค์พันทิป)
Benzac 5%
– สำหรับเราตัวนี้ใช้ดีมากค่ะ เพราะทำให้สิวอุดตันสลายหายไปได้เยอะมาก สิวไม่ผุดนะคะ เหมือนมันละลายหายไปเลย แต่เราแนะนำว่าควรใช้เปอร์เซนต์น้อยๆ เพื่อไม่ให้เกิดความระคายเคืองต่อผิวหน้านะคะ ถ้าชินแล้วถึงค่อยๆขยับเปอร์เซนต์ขึ้น ^^
** หากเกิดการระคายเคืองให้หยุดใช้นะคะ และปรึกษาแพทย์
วิธีใช้ของเรา
– เราจะใช้ก่อนอาบน้ำ คือ ใช้โทนเนอร์หรือคลีนซิ่งเช็ดจนสะอาด แล้วล้างน้ำเปล่า 1 รอบ ก่อนจะทา Benzac ลง แต่ไม่ทั่วหน้านะคะ เราจะทาเฉพาะบริเวณที่มีสิวอุดตัน เช่น ใต้ปาก โหนกแก้ม หน้าผาก ประมาณ 20 นาทีแล้วล้างออกค่ะ
– ใช้สัปดาห์ละ 1-2 ครั้งพอค่ะ (เพราะจะทำให้หน้าบาง หากใช้บ่อย)
คะแนน : 5/5 รักเลยค่ะตัวนี้ เพราะทำให้สิวอุดตันน้อยลงมากๆ ทั้งที่แต่ก่อนเคยมีและบีบไม่ออกด้วยยยยย อมยิ้ม08
Differin 0.1%
– ใช้แล้วรู้สึกเฉยๆ อาจจะเพราะเบาเกินไปสำหรับหน้าเราค่ะ ยังไม่เห็นความแตกต่าง ใช้ต่อเนื่อง 2 เดือนกว่า เราต้องหยุดค่ะ เพราะรู้สึกว่าใช้ไปยังไม่เห็นผล ทั้งยังทำให้หน้าเราแห้งมาก (เราผิวผสมนะคะ) ทุกครั้งที่ทาตัวนี้ แม้แต่ช่วงทีโซนที่มันแพล่บ ก็ยังลอกเป็นขุยเลยค่ะ
ตัวนี้ที่คนอื่นๆใช้แล้วบอกว่าสิวอุดตันจะผุดขึ้นมา เราไม่เกิดผลใดๆทั้งสิ้นค่ะ ไม่มีสิวผุดสักเม็ด
วิธีใช้ของเรา
เราจะทาหลังล้างหน้าทั่วทั้งหน้าค่ะ และทิ้งไว้ทั้งคืน ตื่นเช้ามาล้างออกตามปกติ
คะแนน : 2/5 เอาไปแค่นี้พอ เพราะใช้ไม่เห็นผลกับหน้าเราค่ะ เราต้องไปหาใช้แบบเปอร์เซนต์สูงหน่อย แต่เรื่องความระคายเคืองตอนทาไม่เจอนะคะ
Epiduo (ตัวนี้เพื่อนแนะนำค่ะ)
– ไม่เคยทาทั้งหน้านะคะ เพราะเราเห็นว่าตัวยามีส่วนคล้ายกับ Differin อาจจะทำให้หน้าเราลอก เราจะทาเฉพาะจุดที่เป็นสิวแดงๆ หัวยังไม่ออกเท่านั้นค่ะ ซึ่งได้ผลดี เพราะเมื่อสิวหัวออกมาแล้ว เราจะบีบก่อนโปะยาอื่นตาม (วิธีบีบสิวของเราไม่ให้สิวติดเชื้อ ทำให้อักเสบมากขึ้น จะบอกหลังจากแนะนำตัวยาจบนะคะ)
วิธีใช้ของเรา
ใช้หลังล้างหน้า จะเข้านอนแล้วไม่ออกไปไหนอีกนะคะ โปะไว้เยอะๆ ตรงจุดที่สิวกำลังจะขึ้นค่ะ ตื่นเช้ามาล้างหน้าออกตามปกติ (ไม่แนะนำให้ทาตอนเช้า ทั้ง Epiduo และ differin นะคะ)
คะแนน : 4/5 ให้ตรงที่เห็นผลเร็วค่ะ ทาย้ำตรงที่สิวแดงๆกำลังจะขึ้น ประมาณ 1-2 คืนสิวก็ออกมาแล้ว ไวมากกกกก
Smooth E
– ใช้ดีมากค่ะ สำหรับเราใช้ดีกับสิวที่เป็นสิวอักเสบ ทำให้หัวสิวสุกพอที่จะบีบได้ แสบบ้างเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับขนาดของสิวค่ะ ใช้ดีพอๆกับ Epiduo เลยค่ะ
วิธีใช้ของเรา
ใช้หลังจากอาบน้ำเสร็จ ทาทิ้งไว้ทั้งคืน ตอนเช้าล้างออกปกติค่ะ
คะแนน : 3/5 ข้อเสียคือ จุดที่เราทา ลอกค่ะ ลอกแบบเป็นชิ้นเอามือดึงได้เลย แต่ตอนนั้นด้วยความเสียดาย ใช้จนหมดหลอดค่ะ โดยมีskincare ตัวนึง ใช้ควบคู่ไปด้วยกัน
สองตัวนี้เป็นครีมหมอค่ะ อยากทราบว่าซื้อจากไหน แนะนำหลังไมค์นะคะ
– สำหรับเราใช้ดีแค่ช่วงแรกค่ะ หลังจากนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตัวซ้ายจะเป็นตัวลดรอยดำ ยังไม่เห็นผลค่ะ ทาประมาณ 2-3 สัปดาห์ติดก็ไม่ได้เห็นผลเร็วมากถึงขนาดต้องตื่นเต้น เพราะหน้าเราเป็นคนรอยดำหายไวอยู่แล้ว ส่วนตัวขวาแต้มสิวค่ะ ลักษณะเป็นเจลใสๆ จำได้ว่ามีครั้งหนึ่งสิวจะขึ้นที่จมูก ตรงกลางจมูกเลยค่ะ และน่าจะขึ้นใหญ่ด้วย แต่พอโปะยาตัวนี้ลงไปประมาณ 1 สัปดาห์ ต่อเนื่องเช้าเย็น หายค่ะ สิวหายไปเลย แต่เม็ดอื่นต่อจากนั้น กลับใช้ไม่ได้ผล
วิธีใช้ของเรา
ทาเฉพาะจุดที่เป็นสิวและรอยดำ หลังจากอาบน้ำเสร็จ ไม่ต้องล้างออกค่ะ ทาแล้วนอนไปเลย เช้ามาล้างหน้าตามปกติ แล้วทายาซ้ำ
คะแนน : 3/5 พอค่ะ เพราะได้ผลแค่ครั้งเดียวเอง
อ่านรีวิวเพิ่มเติมต่อได้ที่ : ยาแต้มสิว และวิธีดูแลผิวหน้าไม่ให้กลับมาเป็นสิวซับซ้อน